เขตนันทนาการป่าไม้แห่งชาติเขิ่นติงเป็นเขตนันทนาการป่าไม้แห่งชาติแห่งที่ 2 ของไต้หวัน และยังเป็นป่าระบบนิเวศเขตร้อนแห่งแรกของประเทศ  โดยอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของสำนักงานป่าไม้และอนุรักษ์ธรรมชาติ กระทรวงเกษตร (Forestry and Nature Conservation Agency, Ministry of Agriculture)  ในอดีตพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นสวนพฤกษาทะเล (Ocean Garden) ที่อุดมไปด้วยปะการังหิน (Scleractinia), สาหร่ายหินปูนปะการัง (Calcareous Algae), ฟอแรมินิเฟอร่า (Foraminifera) หรือสิ่งมีชีวิตทะเลขนาดเล็กที่มีเปลือกแข็ง และซากเปลือกหอยจำนวนมาก แต่ด้วยเหตุการณ์การเคลื่อนตัวของเปลือกโลกเมื่อ 500,000 ปีก่อน ทำให้พื้นที่บริเวณนี้ยกตัวสูงขึ้น ระบบนิเวศแบบเดิมได้เปลี่ยนแปลงกลายเป็นระบบนิเวศป่ารูปแบบเฉพาะที่เรียกว่า “ป่าหินปะการังยกตัว” (Uplifted Coral Reef Forest) ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพ  ผสมผสานกับภูมิประเทศแบบป่าไม้โซนร้อนเขตมรสุม (Monsoon Forest) และภูมิประเทศแบบหินปูนหรือคาสต์ (Karst Landform)

ด้วยภูมิทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์เหล่านี้ เขตนันทนาการป่าไม้แห่งชาติเขิ่นติงจึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางในการเดินทางมาพักผ่อนที่น่าสนใจและแปลกใหม่สำหรับนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากตลาดกลางคืนเขิ่นติง (Kenting Night Market) ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียงประมาณ 10 นาทีเท่านั้

พื้นที่แห่งนี้ประกอบด้วยระบบนิเวศของป่าหินปะการังและป่าฝนเขตร้อนที่ได้รับการพัฒนาแล้ว ภายในอุดมไปด้วยพืชพันธุ์หลากหลายสายพันธุ์ เช่น ต้นประดู่ส้มยักษ์ (Bischofia javanica Blume) ที่เติบโตแทรกตัวอยู่ตามโขดหิน, ต้นหงอนไก่ทะเล (Heritiera littoralis) ที่มีรากค้ำยันแข็งแรง และต้นไทรย้อยใบแหลม (Ficus benjamina) ที่แผ่รากอากาศลงมาอย่างหนาแน่น กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สร้างเอกลักษณ์ให้กับผืนป่าแห่งนี้ 

ในเขตนันทนาการมีพืชมากกว่า 1,000 ชนิด ซึ่งรวมถึงพืชนำเข้า 325 ชนิด และตระกูลกระบองเพชรอีกกว่า 70 สายพันธุ์ หนึ่งในพืชหายากของไต้หวันที่พบได้บริเวณป่าชายฝั่งใกล้เคียง คือ “ต้นฉีผานเจี่ยว” หรือต้นจิกทะเล (Barringtonia asiatica) ซึ่งมีสมญานามว่า “ดอกไม้แห่งเขิ่นติง” ความพิเศษคือผลของมันมีลักษณะคล้ายบ๊ะจ่างหรือขาของโต๊ะหมากรุกโบราณ ส่วนดอกจะบานเฉพาะเวลากลางคืน และร่วงโรยสู่พื้นดินเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ทำให้เป็นหนึ่งในพันธุ์ไม้ที่หายากและทรงคุณค่าของไต้หวัน

เมื่อปี ค.ศ. 1906 ชาวญี่ปุ่นได้ก่อตั้ง “สวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนเหิงชุน” (恒春热带植物园, Hengchun Tropical Botanic Garden) ขึ้นภายในบริเวณนี้ โดยมีประวัติศาสตร์ยาวนานร่วมร้อยปีจวบจนปัจจุบัน และยังคงรักษาความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศไว้เป็นอย่างดี เป็นถิ่นอาศัยของฝูงลิงมาคากไต้หวัน (Formosan Rock Macaque) และกระรอกท้องแดง (Red-bellied Tree Squirrel)  หากโชคดีอาจได้พบกวางซีกาหรือที่รู้จักในชื่อกวางลายจุดเหนือ (Sika Deer)  และพังพอนกินปู (Crab-eating Mongoose) ซึ่งเป็นสัตว์ที่หาชมได้ยาก รวมถึงปูน้ำจืดเฉพาะถิ่นอย่างปูเหลืองไต้หวัน (Geothelphusa albogilva) และหอยทากพันธุ์ Pancala ด้วย แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือฝูงนกอพยพนานาชนิดที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนทุกฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคมจะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวอาจได้เห็นเหยี่ยวหน้าเทา (Grey-faced Buzzard) หรือนกหายากอย่างนกขมิ้นท้ายทอยดำ (Black-naped Oriole)

อีกหนึ่งจุดเด่นของเขตนันทนาการป่าไม้แห่งชาติเขิ่นติงคือภูมิประเทศแบบคาสต์  ที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำใต้ดิน ทำให้เกิดถ้ำหินปูนที่มีความมหัศจรรย์ด้านความงามทางธรณีวิทยาอย่างถ้ำหยินหลง (Yinlong Cave) และถ้ำหินงอกหินย้อย (Stalagmite Cave) ภายในตัวถ้ำปรากฏให้เห็นหินงอกหินย้อยรูปทรงสวยงามที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าทางธรณีวิทยา ดึงดูดให้ผู้ที่มีใจรักการผจญภัยต้องมาสัมผัสความอัศจรรย์ทางธรรมชาติภายในเขตนันทนาการป่าไม้แห่งนี้ด้วยตาของตนเองสักครั้งในชีวิต