ของฝากจากไต้หวัน

ชาไต้หวัน

ไต้หวันขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งใบชา ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศ

ทำให้ไต้หวันเหมาะกับการปลูกชาเป็นอย่างยิ่ง ที่นี่มีชาให้เลือกหลากหลายประเภท ตั้งแต่ ชาอูหลงต้งติ่ง ชาอูหลงป๋ายเหา และชาเถี่ยกวนอิน ซึ่งชาทั้ง 3 ประเภทนี้ จัดได้ว่าเป็นชาชื่อดังจากไต้หวันเลยทีเดียว 

คุณสามารถหาซื้อกาน้ำชาได้เกือบทุกชนิด ตามห้างสรรพสินค้าหรีอร้านจำหน่ายชาทั่วไป 

แต่ถ้าอยากต้มชาในเครื่องเคลือบดินเผา แทนการต้มชาในกาน้ำชาแบบธรรมดาแล้วล่ะก็ ลองแวะไปที่อิงเกอ เมืองเซรามิคของไต้หวันดูสิ บนถนนเจียนซานพูของเมืองอิงเกอแห่งนี้ กลายมาเป็นถนนคนเดินและย่านช้อปปิ้งชื่อดัง ที่นี่มีเครื่องปั้นดินเผาให้คุณได้เลือกซื้อกันอย่างจุใจ เหมาะแก่การเดินเล่นแบบชิวๆ หรือเดินหาซื้อกาน้ำชามากที่สุด

นอกจากนี้ อิงเกอยังมีห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต สำหรับจำหน่ายชาโดยเฉพาะ ใครกำลังมองหาชาไต้หวัน ที่นี่มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกด้วยกัน หรือจะลองชาถุงสักกล่อง ก็สะดวกดีเหมือนกัน เพราะคุณสามารถชงชาร้อนๆ พร้อมดื่มได้ทันที เหมาะสำหรับคนรักชาที่ต้องการความสะดวกและความเรียบง่ายเป็นอย่างยิ่ง ลองชาไต้หวันแล้วจะติดใจ! 

พายสับปะรด 

ไต้หวันนิยมปลูกสับปะรดกันอย่างกว้างขวาง ทำให้เป็นแหล่งผลิดสินค้าแปรรูปจากสับปะรด เช่น สับปะรดกระป๋อง น้ำสับปะรด แยมสับปะรด อีกทั้งยังมีการนำสับปะรดมาทำเป็นเค้กแสนอร่อย รสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี เนื้อเค้กนุ่มจนเหมือนละลายในปาก ถือเป็นของเด็ดของไต้หวันที่คุณห้ามพลาด!

ไวน์ข้าวจีนและเหล้าเกาเหลียง  

ไวน์ข้าวจีนจากเจ้อเจียงนั้น มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์และแตกต่างจากไวน์แหล่งอื่น ๆ เนื่องจากน้ำที่ใช้ในการหมักไวน์ มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่ไหลมาจากพื้นที่ราบลุ่มอ้ายหลาน ในเมืองผูหลี่ ทำให้น้ำมีคุณภาพสูง สะอาดบริสุทธิ์ ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับไวน์ข้าวจีนเป็นอย่างยิ่ง

ส่วนประกอบที่ใช้ในการหมักไวน์ข้าวจีน นิยมหมักด้วย ข้าวเหนียว ข้าวเผิงไหล ข้าวสาลี และส่วนผสมอื่น ๆ ให้เข้าด้วยกัน เมื่อหมักจนได้ระยะเวลาที่กำหนด จะได้ไวน์ข้าวรสชาติดีเยี่ยม มีสีเหลืองทองอ่อน ๆ 

ในส่วนของเหล้าเกาเหลียง มีต้นกำเนิดมาจากเกาะจินเหมิน ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนและแห้ง อากาศบริสุทธิ์ ปราศจากมลพิษ ทำให้ที่นี่เหมาะแก่การหมักเหล้าเกาเหลียงเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีน้ำคุณภาพสูง ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับเหล้าเกาเหลียงเป็นอย่างดี จึงทำให้เหล้าของที่นี่มีรสชาติดี และแตกต่างจากเหล้าแหล่งอื่นๆ 

นอกจากนี้ เกาะหมาจู่ ยังเป็นแหล่งผลิตน้ำแร่คุณภาพสูง มีเหล้ารสชาติดีเยี่ยมให้ได้เลือกชิมมากมาย

ไม่ว่าจะเป็น เหล้าต้าชุย เหล้าเกาเหลียง และไวน์หมาจู่ รวมถึงมีการนำไวน์ข้าวจีนและเหล้าเกาเหลียง มาปรุงอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติอีกด้วย ถือเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอาหารของชาวไต้หวันดั้งเดิมจริงๆ 

เส้นหมี่ 

จากในประวัติศาสตร์  เส้นหมี่เดินทางมาไต้หวันเป็นครั้งแรก ผ่านเส้นทางฝูเจี้ยน ในปัจจุบัน เส้นหมี่ซินจู๋และเส้นหมี่เฟิงเคิงได้รับความนิยมมากที่สุด เมืองซินจู๋มีสภาพอากาศที่เหมาะแก่การเพาะปลูกและทำเส้นหมี่

เพราะสามารถนำเส้นไปตากลมและแดดให้แห้งสนิท อีกทั้งทำให้ตัวเส้นมีความยืดหยุ่น ไม่เละง่าย เมื่อนำไปต้มในน้ำร้อน

เมื่อร้อยปีที่แล้ว ชาวบ้านจากหมู่บ้านเฟิงเคิงได้เผยแพร่ความรู้ในการทำเส้นหมี่ ให้กับเมืองผูหลี่ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กัน ทำให้เมืองผูหลี่มีรายได้เพิ่มมากขึ้น และกลายเป็นอีกเมืองที่ขึ้นชื่อได้ด้านการทำเส้นหมี่ของไต้หวัน

โดยความแตกต่างระหว่างเส้นหมี่ซินจู๋และเส้นหมี่เฟิงเคิงจะอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการผลิด เส้นหมี่ซินจู๋จะถูกนำไปนึ่ง และตากแดดเพื่อรักษารสชาติดั้งเดิมของข้าวไว้ ในขณะที่เส้นหมี่เฟิงเคิง จะนำไปต้มน้ำร้อนก่อน แล้วตากแดด เพื่อเพิ่มความเหนียวนุ่มในกับเส้นหมี่ ซึ่งเส้นหมี่แต่ละชนิด มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกัน รสชาติอร่อย นำไปปรุงกับเมนูไหนก็เรียกน้ำย่อยได้ดีทีเดียว 

โมจิ 

ไต้หวันในยุคแรกๆ เรียกขนมโมจิว่า “โต้วซู่” (ซาลาเปาไส้ถั่ว) ต่อมาในช่วงที่ไต้หวันตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของญี่ปุ่น จึงมีการเปลี่ยนชื่อจากขนมโต้วซู่ เป็น “โมจิ” เนื่องจากได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมมาจากขนม

 “วากาชิ” ของญี่ปุ่น โดยขนมโมจิหรือ โต้วซู่ ถือเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมชาวจีนแคะอีกด้วย ส่วนขนม “ตู้หลุน” คือขนมพื้นบ้านของชาวอาเหม่ย คล้ายกับขนมโมจิ แต่ไม่มีไส้ และใช้ข้าวโพดเป็นส่วนผสมหลัก

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบขนมโมจิสไตล์ไต้หวัน จะต้องรู้จัก “โมจิคุณเจิง” ร้านโมจิที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองฮัวเหลียน ต้นกำเนิดของร้านโมจิคุณเจิง เกิดตอนที่คุณเจิง (เจ้าของร้าน) เดินทางมาที่เมืองฮัวเหลียน แล้วเปิดร้านโมจิสไตล์จีนแคะ คุณเจิงใช้วิธีทำโมจิแบบดั้งเดิม เริ่มต้นด้วยการบดแป้งข้าวจ้าวด้วยมือ กดให้แห้งแล้วเอามานวด จนได้แป้งมีเนื้อนุ่มเคี้ยวเพลิน ไส้โมจิมีรสชาติเข้มข้ม ด้วยความอร่อยของขนมโมจิที่แตกต่างจากร้านอื่น จึงทำให้ขนมโมจิคุณเจิงได้รับความนิยมจากคนท้องถิ่น และกลายเป็นของฝากชื่อดังของเมืองฮัวเหลียนไปโดยปริยาย

ลูกชิ้น

มีตำนานเล่าว่า ลูกชิ้นไต้หวันสร้างขึ้นจากลูกชายผู้มีความกตัญญู ด้วยความที่เขาอยากทำอาหารทานง่ายสำหรับผู้สูงอายุในครอบครัว จึงเริ่มปั้นหมูเป็นก้อนและนวดจนกลม จากนั้นนำไปต้มในน้ำเดือด เพื่อทำให้เนื้อหมูมีรสชาติเหนียวนุ่ม  อาหารจานนี้ถูกเรียกว่า “โร่วหยวน” (ลูกชิ้น) เพราะมีเนื้อหมูเป็นส่วนประกอบหลัก

ต่อมาเป็นที่รู้จักในชื่อ “กงหวัง” ซึ่งออกเสียงคล้ายกับคำว่า “กง” ในภาษาจีน (อุปกรณ์สำหรับทำลูกชิ้น)

โดยในปัจจุบัน ลูกชิ้นไต้หวันถือเป็นอาหารจานเด็ดของเมืองซินจู๋  ใครมาเยือนเมืองนี้ ห้ามพลาดเชียวนะ 

เหลยฉา (ชาผง) 

เหลยฉา (ชาผง) เป็นชาของชาวจีนแคะแบบดั้งเดิม ทำมาจากธัญพืช ผลไม้แห้งและพืชตระกูลถั่ว โดยส่วนผสมทั้งหมดจะถูกบดและทำให้แห้งจนกลายเป็นผงที่ไม่มีน้ำมันเจือปน จากนั้นนำมาชงกับน้ำร้อน จนกลายเป็นชาเพื่อสุขภาพ ถืออีกหนึ่งเมนูที่ทำเองได้ง่าย อีกทั้งเหลยฉา ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของอาหารมื้อหลักของชาวจีนแคะ นิยมเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และเมนูผัดสไตล์จีนแคะ 

ส่วนคนทั่วไปนิยมดื่มไหล่ชาระหว่างวัน เพื่อเติมความสดชื่นให้กับร่างกาย ไหล่ฉาแบบดั้งเดิมสามารถหากินได้ในเมืองเป่ยผู่ เมืองซินจู๋ เมืองหนานจวางเ เมืองเหมียวลี่ และเขตเหมยหนงในเมืองเกาสง

ขนมเปี๊ยะพระอาทิตย์ 

ในสมัยอดีต นักทำขนมจากเมืองไทจงได้ปรับปรุงเค้กมอลต์แบบดั้งเดิม ให้เป็นกลายขนมเปี๊ยะพระอาทิตย์ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน ด้านในของแป้งมีสีเหลืองทองเป็นทรงกลมแบน ขนาดเล็กเท่ากับฝ่ามือเพื่อให้สะดวกกับการรับประทานมากยิ่งขึ้น และสอดไส้น้ำตาลมอลต์เอาไว้ จนได้รสชาติขนมเปี๊ยะแสนอร่อย ทำให้ขนมชนิดนี้ถูกเรียกว่า “ขนมเปี๊ยะพระอาทิตย์” เนื่องจากมีรูปทรงคล้ายกับพระอาทิตย์นั่นเอง 

นอกจากนี้ ขนมเปี๊ยะพระอาทิตย์ยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ซีปิ่ง” (เค้กชั้นดี) มีเนื้อนุ่มละมุนลิ้น ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนชั้นสูง อีกทั้งยังรู้จักกันในชื่อ “เป้าปิง” (เค้กแช่) เพราะมีการจุ่มขนมเปี๊ยะลงในนมถั่วเหลืองร้อนๆ เพื่อให้ได้รสชาติของมอลต์ และทำให้เด็กกับผู้สูงอายุทานง่ายขึ้น  

เมืองไถจง เป็นต้นกำเนิดของขนมเปี๊ยะพระอาทิตย์ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของร้านเบเกอรี่เก่าแก่หลายร้านที่เชี่ยวชาญในการทำขนมชนิดนี้ ซึ่งขนมเปี๊ยะพระอาทิตย์จึงถือเป็นหนึ่งในของฝากที่ขึ้นชื่อที่สุดของไต้หวันอีกด้วย 

บิสกิตสี่เหลี่ยม 

ในเมืองเจียอี้ มีร้านก๋วยเตี๋ยวและร้านหมั่นโถวชื่อดังมากมายหลายแห่ง และเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะต้นกำหนดของขนมบิสกิตสี่เหลี่ยม ส่วนประกอบของบิสกิตสี่เหลี่ยมทำมาจากนมผง เนยหรือมันหมู งาและน้ำตาล ส่วนตัวแป้งจะอบเป็นบิสกิตบางกรอบ หอมน่ารับประทาน แล้วตัดออกเป็นสี่เหลี่ยม ทำให้ขนมชนิดนี้ถูกเรียกว่าบิสกิตสี่เหลี่ยมนั่นเอง

กาแฟ 

ไต้หวันมีการปลูกกาแฟตั้งแต่สมัยที่ยังอยู่ภายใต้อาณานิคมของญี่ปุ่น ต่อมาอุตสาหกรรมกาแฟได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายในการส่งออกที่ค่อนข้างสูง อีกทั้งยังมีคู่แข่งเป็นอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ทำให้ยอดขายตกลง จนเมื่อไม่กี่ปีมานี้ อุตสาหกรรมกาแฟเริ่มฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง และกลับมาเป็นที่นิยมในหมู่คนรักกาแฟทั่วโลก

พื้นที่ที่มีการปลูกกาแฟในไต้หวัน คือ เมืองกู่เคิง เขตหยุนหลิง โดยจะปลูกในภูเขาเหอเป่า ฮว๋าซาน ฮว๋าหนาน กุ้ยหลินและจางหู มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 200 ถึง 800 เมตร ด้วยแสงแดดและฝนที่อุดมสมบูรณ์ มีการระบายน้ำที่ดี ดินอุดมไปด้วยโพแทสเซียม คาร์โบเนต ทำให้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการปลูกกาแฟมากยิ่งขึ้น 

โดยกาแฟกู่เคิง ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงของไต้หวัน อีกทั้งเมืองไถหนาน ยังมีการส่งเสริมอุตสาหกรรมกาแฟให้เติบโตมากยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งพื้นที่หลักในการปลูกกาแฟ คือ เขาค่านโถวในหมู่บ้านหนานซื่อและหมู่บ้านเกาหยวน รวมถึงมีการจัดเทศกาลกาแฟท้องถิ่น เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับเมล็ดกาแฟของไต้หวันอีกด้วย

ส้มจี๊ดเชื่อม

ส้มจี๊ดเชื่อม เป็นอาหารพิเศษของไต้หวันที่มีชื่อเสียง โดยมีต้นกำเนิด มาจากเมืองผู่เจียง จังหวัดเจ้อเจียง ส้มจี๊ดนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายในเมืองเจียวสี หยวนซานและซานซิง เขตอี๋หลาน ด้วยสภาพอากาศที่มีฝนตกตลอดปี ระบบระบายน้ำดี มีที่หลบลมทะเลและลมพายุ ช่วยเพิ่มผลผลิตได้สูงถึง 90% ฤดูเก็บเกี่ยวส้มจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์โดยจะมีผลผลิตสูงสุดในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม เปลือกส้มจี๊ดมีรสเปรี้ยวนำและรสหวานตามธรรมชาติ มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหารและบรรเทาอาการเจ็บคอ รวมถึงเป็นของว่างและเครื่องดื่มยอดนิยมของชาวไต้หวันอีกด้วย

ไข่ปลากระบอก 

การทำไข่ปลากระบอกของไต้หวัน มีมานานกว่าร้อยปี โดยวิธีการทำไข่ปลากระบอกจะเริ่มจากการเลือกปลากระบอกตัวเมียมาเก็บไข่ จากนั้นนำไข่ปลาไปทำความสะอาด ล้างเลือดปลาออกให้หมด นำไปคลุกเกลือ แล้วจึงล้างเกลือด้วยน้ำสะอาด กดให้ได้รูปแล้วนำไปตากแห้ง โดยทุกขั้นตอนใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งคุณภาพของไข่ปลากระบอกนั้น สามารถตัดสินได้จากหน้าตาและรสชาติของไข่ปลา โดยไข่ปลากระบอกที่มีคุณภาพจะต้องมีสีสันสวยงาม มีความหนาเท่ากัน บางโปร่งแสง มีความเค็มนิดๆ  ในไต้หวัน นิยมนำไข่ปลากระบอกไปย่างและปรุงรสด้วยไวน์ข้าวฟ่าง สามารถหาซื้อได้ง่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป และร้านค้าที่ขายเฉพาะทาง ถือเป็นของขวัญยอดนิยมในช่วงตรุษจีนและเทศกาลอื่นๆ ของไต้หวันอีกด้วย

ขาหมู 

ขาหมูสูตรต้นตำรับจากไต้หวัน เนื้อนุ่ม รสชาติอร่อย เหมาะกับการทานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ เป็นที่สุด!

ซึ่งขาหมูทางตอนเหนือและทางตอนใต้ จะมีรสชาติแตกต่างกัน ทางตอนเหนือจะนำขาหมูมาตุ๋นในน้ำซุปใส ปรุงรสอ่อนๆ ส่วนทางใต้จะมีรสเข้มข้นจากซอสถั่วเหลืองมากกว่า โดยขาหมูที่ขึ้นชื่อที่สุดของไต้หวัน ต้องเป็นขาหมูต้มซีอิ๊วจากเมืองว่านหลวน เขตผิงตง และขาหมูของเมืองว่านหลวน เนื่องจากมีการทำเนื้อหมูตุ๋นในซอสถั่วเหลืองรวมถึงใช้วัตุดิบและเครื่องเทศสูตรพิเศษ เพิ่มรสชาติและความหอมให้กับขาหมูมากยิ่งขึ้นด้วยการปรุงแบบพิถีพิถัน ทำให้ได้เนื้อที่นุ่มและชุ่มฉ่ำ ถูกใจคนรักขาหมูแน่นอน

ชาวไต้หวันมีความเชื่อกันว่า การกินขาหมูกับเส้นบะหมี่ จะช่วยปัดเป่าโชคร้าย และเปลี่ยนความเศร้าโศกให้กลายเป็นความสุขได้ ถึงแม้ว่าวิทยาศาสตร์จะไม่ได้ยืนยันในความเชื่อนี้ แต่ก็สร้างความสุขและความสบายใจให้กับชาวพื้นเมืองได้เป็นอย่างดี

เค้กน้ำตาลทรายแดง 

เค้กน้ำตาลทรายแดงพัฒนามาจากเค้กนึ่ง ซึ่งเป็นของไหว้ของบรรพบุรุษมาตั้งแต่สมัยอดีต เชื่อกันว่าผู้อพยพรุ่นแรกๆ มาจากเกาะโอกินาวา เกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำตาลทรายแดง และเป็นผู้นำน้ำตาลทรายแดงมายังเกาะเผิงหู 

โดยสมัยก่อน เค้กน้ำตาลทรายแดงจะถูกนำมาใช้เป็นของไหว้ แต่ในปัจจุบัน มีร้านเบเกอรี่ท้องถิ่นมากมาย จำหน่ายเค้กน้ำตาลทรายแดง เพื่อเป็นของฝากให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนไต้หวัน  โดยมีการปรับปรุงให้เค้กเนื้อนุ่มขึ้นและรสชาติหวานน้อยกว่าเดิม อีกทั้งยังมีการบรรจุในกล่องที่สวยงาม ทำให้กลายเป็นของฝากขึ้นชื่อของเกาะเผิงหู ใครมาเยือนเกาะนี้ ต้องหาโอกาสไปชิมเค้กน้ำตาลทรายแดงให้ได้นะ 

ขนมปังจี้กวง

ตามตำนานแล้ว ขนมปังที่มีหน้าตาเหมือนเบเกิลนี้ ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยแม่ทัพฉี จี้กวง แห่งราชวงศ์หมิง เพื่อใช้ในการแบ่งปันอาหารให้กับหมู่ทหาร เพราะขนมปังสามารถนำมาร้อยต่อกันและแขวนไว้ที่คอได้ จึงทำให้ง่ายต่อการขนส่ง ขนมปังทำมาจากแป้งธรรมชาติ นวดอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้เนื้อแป้งที่เหนียวนุ่มและขึ้นเป็นรูปทรง จากนั้นนำไปอบด้วยการติดไว้กับผนังเตาอบ ซึ่งผนังเตาต้องห้ามร้อนเกินไป เพราะจะทำให้ขนมปังไหม้และเสียรสชาติได้ ขนมปังจี้กวงของเกาะหมาจู่เป็นสไตล์จีนตอนเหนือแท้ๆ โดยขนมแบบดั้งเดิมจะเสิร์ฟด้วยการทอด

แต่ในปัจจุบัน ขนมปังอบจะได้รับความนิยมมากกว่า เพราะดีต่อสุขภาพ นิยมทานคู่กับแฮมและไข่ดาว

ทำให้เป็นที่รู้จักในชื่อ “แฮมเบอร์เกอร์หมาจู่”

บิสกิตลิ้นวัว 

ที่มาของชื่อ “บิสกิตลิ้นวัว” เกิดจากรูปทรงของขนมมีรูปร่างเรียวยาวเหมือนกับลิ้นวัว ถือกำเนิดในเมืองอี๋หลานและเมืองลู่กัง โดยขนมบิสกิตจากทั้งสองแห่งจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป

บิสกิตลิ้นวัวของอี๋หลาน จะมีรูปร่างเรียวยาวและบาง มีการนวดแป้งด้วยมือ รีดจนแบนและกดด้วยมีดตรงกลาง จากนั้นจึงนำไปอบ จนกลายเป็นแผ่นบิสกิตกรอบๆ ในขณะที่บิสกิตลิ้นวัวของลู่กัง มีรูปร่างเป็นวงรี ชิ้นหนากว่า มักจะนำมาอบหรือทอดให้กรอบ เนื้อของบิสกิตจะเป็นผง มีรสหวานเล็กน้อยเพราะไส้น้ำตาลมอลต์ ทำให้อร่อยอีกแบบ

Share Now!

เทศกาลแนะนำ