ขอบคุณรูปภาพจาก www.taiwan.net
อยากรู้ไหมว่าช่วงตรุษจีนที่ไต้หวันเขาไปเที่ยววัดทำบุญกันอย่างไร? คู่มือครบถ้วนสำหรับการไหว้พระขอพรเสริมสิริมงคลอยู่ที่นี่แล้ว!
วัฒนธรรมโจ่วชุน (走春) หรือธรรมเนียมออกเดินทางไปเยี่ยมญาติและเข้าวัดในช่วงตรุษจีน เป็นหนึ่งในประเพณีสำคัญของไต้หวันที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ นอกจากเป็นการขอพรเพื่อให้เป็นสิริมงคลต้อนรับปีใหม่แล้ว ยังเป็นช่วงเวลาอบอุ่นที่ช่วยกระชับสายใยในครอบครัวอีกด้วย
บทความนี้จะพาไปรู้จักความหมายดั้งเดิมของโจ่วชุน แนะนำวัดดังที่ชาวไต้หวันนิยมไปไหว้ วิธีการสักการะ ตลอดจนเคล็ดลับเสี่ยงทายและทำนายเซียมซีอย่างละเอียด เพื่อให้คุณได้เริ่มต้นปีใหม่ด้วยใจที่เบิกบาน พร้อมตั้งเจตนาดี ๆ ให้ชีวิตราบรื่นและปลอดภัยตลอดปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้
ความหมายดั้งเดิมและข้อควรระวังของ “โจ่วชุน” คืออะไร?
วัฒนธรรมนี้มีที่มาอย่างไร และคนยุคใหม่มองมันอย่างไร?
ถ้าพูดถึงเทศกาลตรุษจีน หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับการตามครอบครัวไปไหว้พระขอพร ที่จริงธรรมเนียมโจ่วชุนนี้มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นแล้ว ในยุคนั้นผู้คนจะทำพิธีกรรม “ชุนเซ่อ” (春社) ในฤดูใบไม้ผลิ เพื่อขอบคุณเทพเจ้าแห่งแผ่นดินที่ช่วยคุ้มครองให้พืชผลอุดมสมบูรณ์ เมื่อเวลาผ่านมาถึงปัจจุบัน ธรรมเนียมโจ่วชุนก็ถูกพัฒนาและทำให้มีความหมายกว้างขึ้น ไม่ได้จำกัดแค่การไปวัดไหว้พระหรือเยี่ยมญาติในช่วงวันแรกถึงวันที่ 15 ของปีใหม่เท่านั้น แต่ยังกลายเป็นกิจกรรมที่หลากหลายมากขึ้น เช่น:
- เปลี่ยนเป็นทริปสั้น ๆ เพื่อพักผ่อนและซึมซับบรรยากาศธรรมชาติ
- หลายพื้นที่จัด ตลาดนัดสร้างสรรค์ เพื่อเติมความทันสมัยให้ประเพณีดั้งเดิม
- วัดสำคัญต่าง ๆ คิดวิธีการขอพรที่ทันสมัยกว่าเดิม ไม่ได้มีแค่การจุดธูปอีกต่อไป
- กลายเป็นเทศกาลสำคัญที่ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในท้องถิ่น
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าคนยุคใหม่ยังคงให้ความสำคัญกับประเพณีดั้งเดิม แต่ก็พร้อมปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ปัจจุบันได้อย่างสร้างสรรค์และกลมกลืน
เวลาไหนที่เหมาะที่สุดในการเดินทางไปโจ่วชุน
การออกไปโจ่วชุนในช่วงวันที่ 1 ถึงวันที่ 5 ของปีใหม่ ตามความเชื่อและภูมิปัญญาดั้งเดิมจะมีช่วงเวลาที่ถือว่าเหมาะสมที่สุดในแต่ละวันที่ควรเดินทาง เพื่อให้การขอพรเป็นสิริมงคลยิ่งขึ้น
ด้านล่างนี้คือคู่มือฉบับย่อที่สรุปมาให้อ่านง่ายและทำตามได้ไม่ยาก:
| วันที่ | เวลาออกเดินทางที่ดีที่สุด | เวลาที่ควรหลีกเลี่ยง | เคล็ดลับพิเศษ |
| วันตรุษจีน (วันที่ 1 ตามปฏิทินจันทรคติ) | 07:00 – 09:00 น. | 11:00 – 13:00 น. | มุ่งหน้าไปทาง ทิศตะวันออก จะเป็นสิริมงคลที่สุด! ควรหลีกเลี่ยงทิศเหนือ และไม่ควรเดินย้อนกลับ |
| วันที่ 2 ตามปฏิทินจันทรคติ | 09:00 – 11:00 น. | 19:00 – 21:00 น. | มุ่งหน้าไปทาง ทิศใต้ จะช่วยให้ทุกอย่างราบรื่น แนะนำให้หาอะไรทานให้อิ่มก่อนออกเดินทาง |
| วันที่ 3 ตามปฏิทินจันทรคติ | 05:00 – 07:00 น. | 15:00 – 17:00 น. | เหมาะสำหรับ ออกทริประยะไกล การไปเป็นกลุ่มจะยิ่งสนุก |
| วันที่ 4 ตามปฏิทินจันทรคติ | 11:00 – 13:00 น. | 03:00 – 05:00 น. | มุ่งหน้าไปทาง ทิศตะวันตก จะนำโชคดีมาให้ แนะนำให้มีเพื่อนร่วมเดินทาง |
| วันที่ 5 ตามปฏิทินจันทรคติ | 07:00 – 11:00 น. | 23:00 – 01:00 น. | วันนี้เหมาะกับ ทริปสั้น ๆ ชวนเพื่อนไปเที่ยวด้วยกันจะดีที่สุด |
สำหรับธรรมเนียมปฏิบัติพื้นฐานในการสักการะ มีหลายอย่างที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ ได้แก่:
- ไม่ต้องเร่งไปหลายวัดเกินไป ค่อย ๆ สักการะแต่ละวัดด้วยความตั้งใจ
- ก่อนเข้าวัด ควรจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อย และทำจิตใจให้สงบ แสดงความศรัทธา
- ปฏิบัติตามกฎของแต่ละวัด โดยเฉพาะเรื่องการใช้ธูป เทียน และกระดาษเงินกระดาษทอง
- รักษาความสงบภายในวัด และตรวจสอบว่าพื้นที่ไหนอนุญาตให้ถ่ายภาพได้บ้าง
- ท่าทางในการไหว้ควรสำรวม ไม่ทำลวก ๆ
- ควรทานอาหารให้อิ่มก่อนออกจากบ้าน และเตรียมของว่างหรือเครื่องดื่มเผื่อไว้
- อากาศอาจเปลี่ยนแปลงง่าย ควรพกเสื้อแจ็กเก็ตไปด้วยเพื่อความอุ่นใจ
นอกจากนี้ หลายวัดในปัจจุบันหันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แนะนำให้ลองใช้ธูปที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือธูปอิเล็กทรอนิกส์แทนธูปเทียนแบบดั้งเดิม ได้บุญและยังช่วยลดมลภาวะอีกด้วย!
วัดโจ่วชุน ยอดนิยมในไต้หวันมีที่ไหนบ้าง?
วัดที่มีเอกลักษณ์ที่สุดในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ของไต้หวันอยู่ที่ไหน?
เมื่อพูดถึงวัดสำหรับการโจ่วชุน แต่ละภาคต่างก็มีวัดที่โดดเด่นเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ วัดหลงซาน ที่ชาวไทเปชื่นชอบ ไม่เพียงแต่เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในไทเปเท่านั้น แต่องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมที่ประดิษฐานยังขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะด้านความรักและการเรียน วัดต้าเจี่ยเจิ้นหลาน แห่งเมืองไถจง โดดเด่นด้วย ขบวนแห่เจ้าแม่มาจู่ประจำปี ถือเป็นพิธีกรรมทางศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในไต้หวัน หากต้องการขอพรเรื่องโชคลาภ การงาน หรือความปลอดภัยไม่ควรพลาดที่นี่ และที่น่าสนใจที่สุดในภาคใต้คือ เจดีย์มังกรเสือ ณ เมืองเกาสง ไฮไลต์คือการ “เข้าปากมังกร ออกปากเสือ” ที่เชื่อว่าจะช่วยเสริมโชค และพลิกฟื้นชะตาชีวิตให้ดีขึ้นอย่างมาก
| ภูมิภาค | ชื่อวัด | เทพประธาน | ลักษณะเด่นและความศักดิ์สิทธิ์ | ที่ตั้ง |
| เหนือ | วัดหลงซาน(Longshan Temple) | พระโพธิสัตว์กวนอิม | ด้านความรักและการเรียน เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในไทเป | No. 211, Guangzhou St., Wanhua Dist., Taipei City |
| กลาง | วัดต้าเจี่ยเจิ้นหลาน (Dajia Jenn Lann Temple) | เจ้าแม่มาจู่ (หม่าโจ้ว) | เด่นเรื่องความปลอดภัย หรือขอให้ธุรกิจรุ่งเรือง มีขบวนแห่เจ้าแม่มาจู่ประจำปีที่ยิ่งใหญ่ | No. 158, Shuntian Rd., Dajia Dist., Taichung City |
| ใต้ | เจดีย์มังกรเสือ (Dragon and Tiger Pagodas) | เทพมังกรเสือ | เด่นเรื่องพลิกฟื้นและเสริมโชคชะตา ด้วยการ เข้าทางปากมังกร ออกทางปากเสือ | No. 1, Shijian Rd., Zuoying Dist., Kaohsiung City |

(วัดหลงซาน)
เทพประธานของแต่ละวัดมีจุดเด่นต่างกันอย่างไร? ควรเลือกวัดแบบไหนให้เหมาะกับตัวเอง?
เมื่อพูดถึงเทพประธานของวัดแต่ละแห่ง เทพเจ้าแต่ละองค์ล้วนมีความศักดิ์สิทธิ์ในด้านที่แตกต่างกัน การเลือกสักการะให้ตรงกับสิ่งที่ต้องการจึงสำคัญมาก:
ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://www.twtainan.net/
| เทพประธาน | ขอบเขตหน้าที่ | เรื่องที่ควรขอ | เน้นศักดิ์สิทธิ์ |
| เจ้าแม่มาจู่ (หม่าโจ้ว) | ผู้พิทักษ์ทางทะเล | ความปลอดภัย ธุรกิจ | โชคเรื่องการสอบ การเดินเรือ การเดินทาง |
| เทพกวนอู | ความซื่อสัตย์ เทพแห่งปัญญา | การเรียน การศึกษา | ธุรกิจ ปัญญา |
| ถู่ตี้ (ตี่จู่เอี้ยะ) | เทพประจำบ้าน เทพเจ้าแห่งโชคลาภและความดีงาม | โชคลาภ เกษตรกรรม | เสริมดวง ขอโชคลาภ |
| พระโพธิสัตว์กวนอิม | ความเมตตาและช่วยเหลือ | สุขภาพ ความรัก | ขอบุตร ขอให้รอดพ้นจากอันตราย |
สิ่งสำคัญที่ควรรู้เมื่อไปสักการะ
- เลือกขอพรกับเทพเจ้าที่ตรงกับความต้องการของตัวเองจะได้ผลดีที่สุด
- การมีจิตใจศรัทธาสำคัญยิ่งกว่าการสักการะแบบตั้งใจแต่เพียงภายนอก
- ควรใส่ใจวันมงคลพิเศษ เช่น วันขึ้น 1 ค่ำ และวันขึ้น 15 ค่ำของปฏิทินจันทรคติ
- หากต้องการเลือกช่วงเวลาที่เป็นฤกษ์ดี สามารถอ้างอิงจากปฏิทินเกษตรเพิ่มเติมได้
- เวลาที่เหมาะสำหรับการสักการะคือช่วงเช้าตรู่หรือช่วงเย็น
- อย่าลืมล้างมือก่อนเข้าพื้นที่สักการะ เพื่อแสดงความเคารพ
เพิ่มเติม: วัดแต่ละแห่งอาจมีธรรมเนียมหรือวิธีการปฏิบัติที่ไม่เหมือนกัน แนะนำให้สอบถามเจ้าหน้าที่ของวัดเพื่อให้สักการะได้ถูกต้องและสบายใจยิ่งขึ้นขอขอบคุณรูปภาพจาก https://www.twtainan.net/
ขั้นตอนและธรรมเนียมในการสักการะที่ถูกต้องทำอย่างไร
ขั้นตอนที่หนึ่ง: การเข้าสู่วัด
- ยกมือไหว้ที่หน้าประตูวัดเพื่อทักทายเทพเจ้า เป็นการบอกอย่างนอบน้อมว่า “มาแล้ว”
- เมื่อก้าวผ่านธรณีประตู ให้ก้าวข้าม ห้ามเหยียบโดยเด็ดขาด
ขั้นตอนที่สอง: การเตรียมจุดธูป
- ส่วนใหญ่ทางวัดจะเตรียมธูปไว้ให้ เลือกหยิบจำนวนคี่ (1–3 ดอกก็เพียงพอ)
- ล้างมือและจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อยก่อน ถือเป็นการแสดงความตั้งใจที่ดี
- ปัจจุบันหลายวัดมีธูปอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เลือกใช้ด้วย
ขั้นตอนที่สาม: การจุดธูปและขอพร (หัวใจสำคัญ!)
- ถือธูปด้วยสองมือระดับหน้าอก แล้วกล่าวชื่อและที่อยู่ของคุณในใจ
- จากนั้นตั้งจิตบอกความปรารถนาที่อยากขอพรอย่างจริงใจ
ขั้นตอนที่สี่: ลำดับการสักการะ
- เรียงลำดับการไหว้จาก เทพประธานของวัด > เทพผู้พิทักษ์ > เทพเหวินชาง (เทพแห่งการเรียน)
- ปักธูปหนึ่งดอกในกระถางธูปแต่ละจุด
- สำหรับการโค้งคำนับสามครั้ง หรือการคุกเข่า ให้ทำตามกฎแต่ละวัด
ขั้นตอนสุดท้าย: เมื่อออกจากวัด
- อย่าหันหลังให้องค์พระโดยตรง ให้หมุนตัวออกอย่างนอบน้อม
- ยกมือไหว้เพื่อกล่าวลา โค้งคำนับอีกครั้งก่อนก้าวออกจากประตูวัด
หมายเหตุ: ระหว่างสักการะควรมีสมาธิ ใจสงบ ท่าทางเรียบร้อย ไม่เร่งรีบ เป็นการแสดงความเคารพอย่างดีที่สุด
(รูปภาพประกอบจาก Freepik)
การเสี่ยงทายเซียมซีและเคล็ดลับขอพร
การเสี่ยงเซียมซีเปรียบเสมือนการสนทนากับเทพเจ้า จึงต้องทำด้วยความเคารพและจริงใจราวกับไปเยี่ยมผู้ใหญ่ โดยการเสี่ยงเซียมซีมีขั้นตอนดังนี้:
- กล่าวชื่อ อายุ และสิ่งที่ต้องการขอพร หลังจากนั้นโยนไม้เสี่ยงทาย (ไม้ปัวะปวย – รูปร่างคล้ายพระจันทร์เสี้ยว) เพื่อขออนุญาต ต้องได้ เซ้งปวย (ข้างนึงคว่ำ อีกข้างนึงหงาย) สามครั้งจึงจะเริ่มเสี่ยงเซียมซีได้
- เมื่อถือกระบอกเซียมซี ให้ตั้งใจคิดถึงคำถามอย่างเงียบ ๆ แล้วรอให้เซียมซีตกออกมาเอง
ห้ามใช้มือดึงเด็ดขาด - เมื่อได้ใบเซียมซีแล้ว ควรนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญของวัดช่วยตีความเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง อย่าเพียงแค่อ่านระดับเซียมซีแล้วเอาแต่คิดมาก
ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://www.twtainan.net/
อยากแนะนำว่า เซียมซีเป็นเหมือนคำแนะนำจากเทพเจ้า ควรเปิดใจรับด้วยทัศนคติที่ดี และใช้คำแนะนำเหล่านั้นเป็นแรงผลักดันในการพัฒนาตัวเอง ขณะขอพร ควรเปิดใจและเชื่อมั่นว่าความพยายามของเราก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พรสำเร็จเช่นกัน
นอกเหนือจากการ “โจ่วชุน” แบบดั้งเดิมแล้ว ปัจจุบันมีวิธีขอพรแบบไหนที่สร้างสรรค์บ้าง?
เดี๋ยวนี้การโจ่วชุนไม่ได้จำกัดอยู่แค่การไปวัดเหมือนในอดีตแล้ว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีรูปแบบการขอพรที่ทันสมัยและสนุกขึ้นมากมาย เช่น นิทรรศการธีมต่าง ๆ ในศูนย์ศิลปะสร้างสรรค์ ที่ผสมผสานองค์ประกอบการขอพรแบบดั้งเดิมเข้ากับศิลปะร่วมสมัยได้อย่างลงตัว บางแห่งยังครีเอทเป็น กำแพงขอพรดิจิทัล ให้คุณเขียนคำอวยพรผ่านโทรศัพท์มือถือได้ทันที สะดวก ได้บรรยากาศ และยังเข้ากับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่สุด ๆ! หรือจะเป็นเครื่องรางขอพร ไอเทมประจำตัวยุคนี้ เราก็ลิสต์มาให้แล้ว:
| ประเภท | ประโยชน์ | วิธีการใช้งาน | สถานที่แนะนำ |
| ฮู้ (เครื่องรางให้ปลอดภัย) | ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ป้องกันตัว | พกติดตัวหรือแขวนไว้ในบ้าน | วัดที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ |
| หินนำโชค | เรียกทรัพย์ เสริมดวง | เก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์หรือวางบนโต๊ะทำงาน | ร้านขายสินค้ามงคลที่ถูกต้องตามกฎหมาย |
| เครื่องราง | การเรียน อาชีพการงาน | แขวนไว้บนกระเป๋าหรือกระเป๋านักเรียน | ร้านค้าของวัดหรือศาลเจ้าที่มีชื่อเสียง |
แนะนำ: เวลาเลือกซื้อเครื่องราง แนะนำให้ซื้อแบบที่ผ่าน พิธีเบิกเนตร มาแล้วจะดีที่สุด และอย่าลืมเปลี่ยนเครื่องรางใหม่ในช่วงต้นปีจันทรคติ (ช่วงตรุษจีน) ทุกปี แนะนำให้เลือกเครื่องรางให้เหมาะกับปีนักษัตรของตัวเองจะให้ผลดีและเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดกว่า! ที่เก็บเครื่องรางก็มีผลสุด ๆ แนะนำให้เก็บไว้ในที่สะอาด เป็นระเบียบ และเลี่ยงบริเวณที่สกปรกหรือไม่เหมาะสม เพื่อแสดงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยน้า
สรุปแล้ว การโจ่วชุน ไม่ได้เป็นเพียงการสืบทอดประเพณีเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่คนยุคใหม่ใช้ส่งต่อความหวังและขอพรให้กับปีใหม่ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเวลาเดินทางให้เหมาะสม การเลือกวัดที่สอดคล้องกับจุดประสงค์ หรือการปฏิบัติตามธรรมเนียมการสักการะอย่างถูกต้อง สิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาความตั้งใจที่บริสุทธิ์และศรัทธาที่มั่นคง
ในปีใหม่นี้ การออกไปโจ่วชุนจะไม่เพียงทำให้คุณได้สัมผัสเสน่ห์ของวัฒนธรรมดั้งเดิม แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่ดีในการใช้เวลากับครอบครัว พร้อมร่วมกันขอพรให้ชีวิตเต็มไปด้วยความสงบ สุขสมหวัง และสิริมงคลตลอดปี ตรุษจีนปีนี้ อย่าลืมแวะไป โจ่วชุน กันที่ไต้หวันล่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: