“ไต้หวัน” เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่อัดแน่นไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวและเสน่ห์ที่ไม่ธรรมดา เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างประวัติศาสตร์และยุคสมัยใหม่ ถ้าหากนี่เป็นการเดินทางไปไต้หวันครั้งแรกของคุณ และยังลังเลว่า “จะเริ่มจากที่ไหนดี?” บทความนี้ เราขอพาคุณไปรู้จัก “10 ที่เที่ยวไต้หวัน” ยอดฮิตที่ไม่ควรพลาด เพื่อให้ทริปครั้งแรกเต็มไปด้วยความประทับใจ

เตรียมแพ็กกระเป๋า แล้วตาม Taiwan Tourism TH ออกเดินทางกันเลย!

1. ตึกไทเป 101 (Taipei 101)

“ตึกไทเป 101” คือแลนด์มาร์กแห่งความทันสมัยของไต้หวัน ด้วยความสูงถึง 508 เมตร ที่นี่จึงเคยเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก (2004–2010) จุดชมวิวของที่นี่จะทำให้คุณเห็นกรุงไทเปในมุมพาโนรามา และในยามค่ำคืนก็สวยงามด้วยแสงไฟระยิบระยับ ไฮไลต์อีกอย่างคือ “ลูกตุ้มยักษ์” (Tuned Mass Damper) ที่ใช้ลดแรงสั่นสะเทือนจากลมและแผ่นดินไหว บอกเลยว่าถ้าได้มาที่นี่คือเหมือนได้เช็กอินทริปที่เที่ยวไต้หวันอย่างเป็นทางการแล้ว

• วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้า MRT สายสีแดง มาลงที่สถานี Taipei 101 หรือ World Trade Center และใช้ทางออกที่ 4
• เวลาให้บริการ: เปิดให้เข้าชมทุกวัน

วันจันทร์-พฤหัสบดี และวันอาทิตย์ เวลา 11.00-21.30 น.

วันศุกร์-เสาร์ เวลา 11.00-22.00 น.

• ค่าเข้าชม: บัตรเข้าชมสำหรับชมวิวที่ชั้น 89 สำหรับผู้ใหญ่ ราคา 600 NTD สำหรับเด็กที่มีส่วนสูงตั้งแต่ 115 ซม. ขึ้นไป และเด็กนักเรียน ราคา 540 NTD

2. จิ่วเฟิ่น (Jiufen)

จากเมืองใหญ่ เราจะพาคุณย้อนเวลาไปกับหมู่บ้านบนเขาอย่าง “จิ่วเฟิ่น” (Jiufen) อดีตชุมชนเหมืองทองที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับแอนิเมชันดังอย่าง “Spirited Away” ไฮไลต์ของที่นี่คือถนนที่คดเคี้ยวขึ้นลงตามไหล่เขา สองข้างทางเรียงรายด้วยร้านน้ำชา และโคมไฟสีแดงหลายร้อยใบที่แขวนอยู่ตามอาคารทั่วทั้งหมู่บ้าน ถ้ามาที่นี่แล้วแวะดื่มน้ำชา คุณก็จะได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์แห่งกาลเวลาของหมู่บ้านแห่งนี้อย่างเต็มอิ่ม

• วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้า MRT มาลงที่สถานี Zhongxiao Fuxing จากนั้นต่อรถบัสหมายเลข 1062 (Keelung Bus) ไปลงที่ Jiufen Old Street
• เวลาให้บริการ: ไม่มีวันและเวลาเปิด-ปิด สามารถเที่ยวชมได้ทุกวัน
• ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าเข้าชม

3. ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake)

“Sun Moon Lake” หรือ “ทะเลสาบสุริยันจันทรา” เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะไต้หวันและยังเป็น 1 ในจุดหมายปลายทางเชิงธรรมชาติที่สวยงามติดอันดับต้น ๆ ของประเทศ ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาของมณฑลหนานโถว (Nantou) มีลักษณะพิเศษคือด้านหนึ่งมีรูปร่างโค้งมนคล้ายดวงอาทิตย์ ส่วนอีกด้านเว้าโค้งคล้ายพระจันทร์เสี้ยว หากอยากสัมผัสความงดงามของทะเลสาบอย่างใกล้ชิด แนะนำให้เช่าจักรยานปั่นบนเส้นทางรอบทะเลสาบ หรือนั่งเรือข้ามฟากชมวิว เรียกได้ว่าถ้ามาเที่ยวที่นี่ คุณจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์ของธรรมชาติจนเต็มปอดเลยล่ะ

• วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟธรรมดา (TRA) หรือรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) มาลงที่สถานีรถไฟ Taichung และต่อรถ Sun Moon Lake สาย 6670 มาลงที่ป้าย Sun Moon Lake จากนั้นให้ต่อรถบัส Nantou สาย 6669 มาลงที่ป้าย Xiangshan Visitor Center
• เวลาให้บริการ: เปิดให้เที่ยวชมทุกวัน เวลา 9.00-17.00 น.
• ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าเข้าชม

4. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกู้กง (National Palace Museum)

สายประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมต้องไม่พลาด “พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกู้กง” (National Palace Museum) ในกรุงไทเป หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า “กู้กงไทเป” เพราะที่นี่คือแหล่งรวมสมบัติและงานศิลป์ล้ำค่า และเป็น 1 ในจุดหมายปลายทางในไต้หวันที่จะเปิดโลกทัศน์ด้านประวัติศาสตร์ของคุณให้กว้างขึ้น ไฮไลต์ที่ขึ้นชื่อที่สุดคือ “หยกผักกาด” (Jadeite Cabbage) หยกแกะสลักเป็นรูปผักกาดจีน และ “หินหมูตุ๋น” (Meat-Shaped Stone) หยกแกะสลักลายที่ดูคล้ายกับหมูสามชั้นพะโล้ แนะนำให้เผื่อเวลาไว้อย่างน้อยครึ่งวัน เพราะความอลังการของกู้กงไทเปแห่งนี้อาจทำให้คุณเพลินจนลืมเวลา

• วิธีการเดินทาง: จากสถานี Taipei Main Station ต่อรถไฟฟ้า MRT มาลงที่สถานี Shilin หลังจากนั้นต่อรถบัสไทเปสายสีแดงหมายเลข 30 มาลงที่ป้าย National Palace Museum
• เวลาให้บริการ: เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 9.00-17.00 น.
• ค่าเข้าชม: มีค่าเข้าชม ราคาปกติ 350 NTD สำหรับกลุ่มที่มามากกว่า 10 คน ราคาคนละ 320 NTD 

5. เขตนันทนาการป่าไม้แห่งชาติอาหลี่ซาน (Alishan National Scenic Area) 

ได้เวลาหนีความวุ่นวายในเมืองไปสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งขุนเขาที่ “เขตนันทนาการป่าไม้แห่งชาติอาหลี่ซาน” (Alishan National Scenic Area) ที่โด่งดังที่สุดของไต้หวัน ซึ่งนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติหลายคนยกให้เป็นที่เที่ยวไต้หวันในดวงใจ ด้วยความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 2,200 เมตร ทำให้ที่นี่มีอากาศเย็นสบายตลอดปี ยิ่งถ้าได้เดินทางด้วย “เส้นทางรถไฟอาหลี่ซาน” (Alishan Forest Railway) เส้นทางรถไฟโบราณที่แล่นผ่านอุโมงค์ ป่าเขา และสะพานสูงเหนือหุบเขา ก็จะยิ่งเพิ่มความฟินให้กับทริป ถ้ามาเยือนไต้หวันแล้วอยากเติมพลังจากธรรมชาติ อาหลี่ซานคือคำตอบที่ลงตัวสุด ๆ

• วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) มาลงที่สถานีรถไฟ Chiayi ต่อรถ Taiwan Tourist Shuttle สาย Alishan เส้น A 7329 และ ลงที่ Chukou Visitor Center
• เวลาให้บริการ: เปิดให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
• ค่าเข้าชม: มีค่าเข้าชม เริ่มต้น 300 NTD

6. วัดหลงซาน  (Longshan Temple) 

กลับมาเที่ยวในเมืองกันบ้าง! แต่คราวนี้เราจะพาทุกคนย้อนยุคไปในไทเปยุคโบราณกันที่ “วัดหลงซาน” (Longshan Temple) วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1738 มีโครงสร้างสถาปัตยกรรมที่งดงาม มีทั้งองค์เจ้าแม่กวนอิมเป็นพระประธาน และยังประดิษฐานเทพเจ้าจีนตามความเชื่อทั้งทางพุทธ เต๋า และขงจื๊ออยู่ภายในวัดเดียวกัน วัดหลงซานไม่ได้มีดีแค่ความขลังและเก่าแก่ แต่ที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทเปมาหลายร้อยปี และบริเวณรอบวัดยังเป็นย่านตลาดโบราณ ทำให้วัดหลงซานเป็นที่เที่ยวไต้หวันที่ผสมผสานทั้งมิติทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตคนท้องถิ่นเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว

• วิธีการเดินทาง: จากสถานี Taipei Main Station ต่อรถไฟฟ้า MRT  มาลงที่สถานี Longshan Temple
• เวลาให้บริการ: เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 6.00-22.00 น.
• ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าเข้าชม

7. ซีเหมินติง (Ximending)

ถึงเวลาออกมาสัมผัสความคึกคักของกรุงไทเป เพราะ “ซีเหมินติง” (Ximending) เป็นย่านช็อปปิงเดินเล่นที่ครึกครื้นที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง เมื่อเดินเข้าไปในย่านซีเหมินติง คุณจะสัมผัสได้ถึงพลังงานความมีชีวิตชีวาแบบสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นจากแฟชัน การแสดง หรือร้านสตรีทฟู้ด (Street Food) ที่เรียงรายตลอดทาง และหากเดินเลยย่านช็อปปิงมาหน่อย คุณจะเห็น “ตึกแดง” (The Red House) โรงละครทรงแปดเหลี่ยมอิฐแดงที่เป็นเหมือนหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของย่านนี้ที่ยังหลงเหลืออยู่ ซีเหมินติงจึงเป็นย่านที่ผสมอดีตและปัจจุบันเข้าด้วยกันอย่างมีชีวิตชีวา และเป็นที่เที่ยวไต้หวันที่สายช็อปต้องเทใจให้

• วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้า MRT มาลงที่สถานี Ximending และใช้ทางออกที่ 6
• เวลาให้บริการ: ไม่มีวันและเวลาเปิด-ปิด
• ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าเข้าชม

8. อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ก (Chiang Kai-Shek Memorial Hall)

1 ในสถานที่ที่สะท้อนประวัติศาสตร์การเมืองไต้หวันได้ดีที่สุดก็คือ “อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ก” (Chiang Kai-Shek Memorial Hall) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงไทเป สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเจียงไคเช็ก อดีตผู้นำทางการเมืองของไต้หวัน ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่สถานที่ทางประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นที่เที่ยวไต้หวันยอดนิยมเพราะสถาปัตยกรรมและบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ บริเวณโดยรอบอนุสรณ์สถานคือลานกว้างที่เรียกว่า “จัตุรัสเสรีภาพ” (Liberty Square) ที่สวยงามด้วยลวดลายกระเบื้องสีขาวฟ้า และยังเป็นที่ตั้งของอาคาร “โรงละครและหอแสดงคอนเสิร์ตแห่งชาติ” (National Theater & Concert Hall) เมื่อมาที่นี่ คุณจะสัมผัสได้ถึงทั้งความสงบของสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ผสมกับความมีชีวิตชีวาของผู้คนที่มาเดินเล่น ถ่ายรูป หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กัน จึงเป็นอีกมุมหนึ่งของไทเปที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร

• วิธีการเดินทาง: จากสถานี Taipei Main Station จากนั้นต่อรถไฟฟ้า MRT  มาลงสถานี Chiang Kai-Shek Memorial Hall
• เวลาให้บริการ: เปิดให้บริการทุกวัน

Memorial Hall เข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น.

Memorial Park เข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 5.00-00.00 น.

• ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าเข้าชม

9. อุทยานแห่งชาติหยางหมิงซาน  (Yangmingshan National Park)

ไทเปไม่ได้มีดีแค่ตึกสูงหรือย่านช็อปปิงเท่านั้น แต่ยังมีธรรมชาติและป่าเขาในเขตอุทยานแห่งชาติที่อยู่ติดเมืองแบบไปเช้าเย็นกลับได้อย่าง “อุทยานแห่งชาติหยางหมิงซาน” (Yangmingshan National Park) นี่เอง หยางหมิงซานเป็น 1 ใน 9 อุทยานแห่งชาติของไต้หวัน ครอบคลุมพื้นที่ภูเขาไฟทางตอนเหนือของเกาะ ที่นี่มีทั้งบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ บ่อโคลนเดือด น้ำตก และปล่องภูเขาไฟที่มีไอน้ำกำมะถันพวยพุ่งออกมาตลอดเวลา และยังมีชื่อเสียงเรื่องดอกไม้และทิวทัศน์ตามฤดูกาลสุดตระการตา ที่นี่จึงเป็นที่เที่ยวไต้หวันสำหรับคนที่อยากพักจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่ แล้วมารีเฟรชร่างกายกับธรรมชาติ

• วิธีการเดินทาง: จากสถานี Taipei Main Station และต่อรถบัสหมายเลข 1717 ลงป้าย Yangmingshan National Park Administration
• เวลาให้บริการ: เปิดให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ส่วน Visitor Center และจุดให้บริการจะเปิดทำการตั้งแต่เวลา 9.00-16.30 น.
• ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าเข้าชม

10. หมู่บ้านสายรุ้ง (Rainbow Village) 

ปิดท้ายลิสต์ที่เที่ยวไต้หวันของเราด้วยสถานที่แสนน่ารักและอบอุ่นหัวใจอย่าง “หมู่บ้านสายรุ้ง” (Rainbow Village) ในเมืองไถจง (Taichung) หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้โดดเด่นด้วยงานศิลปะสีสันสดใสที่แต่งแต้มอยู่แทบทุกตารางนิ้ว จนเปรียบเสมือนแกลเลอรี (Gallery) กลางแจ้งสุดชิคที่เต็มไปด้วยจินตนาการและความสุข เดิมทีหมู่บ้านสายรุ้งเคยเป็นหมู่บ้านเก่าของทหารผ่านศึก แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป อาคารต่าง ๆ เริ่มทรุดโทรมและอยู่ในแผนจะถูกรื้อถอน ท่ามกลางช่วงเวลานั้น หวง หย่งฟู่ (Huang Yung-Fu) หรือที่ผู้คนเรียกอย่างรักใคร่ว่า “คุณตาสายรุ้ง” ได้ตัดสินใจลงมือทาสีบ้านเรือนด้วยลวดลายสีสันสดใส เพื่อชุบชีวิตให้หมู่บ้านอีกครั้ง

ความตั้งใจเล็ก ๆ ของคุณตากลับกลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ เมื่อมีนักศึกษากลุ่มหนึ่งบังเอิญผ่านมาเห็นและแชร์ภาพลงบนอินเทอร์เน็ตจนกลายเป็นกระแสไวรัล และทำให้หมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมประจำเมืองไถจง วันนี้หมู่บ้านสายรุ้งไม่เพียงแต่เป็นโลเคชันถ่ายรูปสุดน่ารักเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของพลังศิลปะที่สามารถฟื้นฟูชุมชน และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนจากทั่วโลก

• วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟธรรมดา (TRA ) มาลงสถานี Xinwuri จากนั้นต่อรถบัสหมายเลข 56,655, หรือ74 มาลงป้าย Rainbow Military Dependents’ Village
• เวลาให้บริการ: เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 9.00-17.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
• ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าเข้าชม

หวังว่าลิสต์ 10 ที่เที่ยวไต้หวันนี้จะช่วยให้การวางแผนทริปแรกของคุณทั้งง่ายและสนุกขึ้น แต่อย่าลืมว่ายังมีที่เที่ยวอีกมากมายรอให้คุณไปค้นพบเมื่อกลับไปเยือนไต้หวันอีกครั้ง ไม่แน่ว่าหลังทริปนี้ คุณอาจตกหลุมรักเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้จนอยากกลับไปซ้ำอีกก็ได้ เพราะเสน่ห์ของไต้หวันนั้นมีมากเกินกว่าจะเก็บครบหมดในรอบเดียวแน่นอน