ถ้าคุณเป็นสายรักธรรมชาติที่ชื่นชอบการออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ ทำกิจกรรมปีนเขา ลุยป่า หรือเดินเล่นชมอุทยาน ไต้หวันก็คือจุดมุ่งหมายที่คุณอาจตกหลุมรักตั้งแต่ยังไปไม่ถึง เพราะที่นี่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติกระจายตัวอยู่ทั่วทั้งเกาะ มีครบทุกบรรยากาศที่รอให้คุณได้ไปสัมผัส หากใครรู้สึกว่าแค่เห็นในภาพก็สวยงามแล้ว Taiwan Tourism TH ขอรับประกันเลยว่า ของจริงสวยกว่าในภาพแบบเทียบไม่ติดเลยล่ะ

ในบทความนี้ เรารวบรวม “5 ที่เที่ยวไต้หวันสำหรับสายธรรมชาติ” มาให้แล้ว แต่ละสถานที่มั่นใจได้เลยว่าทั้งสวยงามและสนุก เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการทำกิจกรรมกลางแจ้งและรักความงามที่ไม่ต้องปรุงแต่งของธรรมชาติ

1. อุทยานแห่งชาติยวี่ซาน (Yushan National Park)

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.ysnp.gov.tw 

อุทยานแห่งชาติยวี่ซานตั้งอยู่บน “ภูเขายวี่ซาน” หรือ “ภูเขาหยก” (Jade Mountain) ภูเขาที่สูงที่สุดในไต้หวัน ด้วยความสูงถึง 3,952 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้ที่นี่เป็นจุดสูงสุดของเกาะไต้หวัน อีกทั้งยังถือเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 105,490 เฮกตาร์

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.ysnp.gov.tw 

ระบบนิเวศภายในอุทยานแห่งชาติยวี่ซานมีความหลากหลาย ตั้งแต่ป่าเบญจพรรณ ป่าสน ป่าไผ่ ไปจนถึงป่าเขตอบอุ่น เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด รวมถึงสัตว์หายากเฉพาะถิ่น ด้วยความอุดมสมบูรณ์นี้ อุทยานแห่งชาติยวี่ซานจึงได้ชื่อว่าเป็นแหล่งความหลากหลายทางชีวภาพชั้นนำของไต้หวัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จะมีดอกอาซาเลีย (Azalea) และดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง แต่งแต้มภูเขาอย่างสวยงาม

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.ysnp.gov.tw 

นักท่องเที่ยวที่เป็นสายเดินป่า เดินเขา หรือสายผจญภัย หากอยากพิชิตยอดภูเขาหยก ต้องขอใบอนุญาตล่วงหน้าและค้างแรมบนเขาอย่างน้อยหนึ่งคืน สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีเวลาจำกัด ก็สามารถเลือกเป็นการขับรถเที่ยวชมทิวทัศน์ของอุทยานแห่งชาติยวี่ซานผ่านทางหลวงข้ามเกาะสายใต้ได้เช่นกัน อีกจุดที่น่าสนใจคือ “ป่าต้นสนไซเปรสยักษ์” และ “หนองน้ำเทียนฉือ” ที่ซ่อนตัวอยู่ใจกลางอุทยาน

2. ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake)

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.sunmoonlake.gov.tw 

ทะเลสาบสุริยันจันทรา เป็นทะเลสาบน้ำจืดธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 7.93 ตารางกิโลเมตร และอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลราว 748 เมตร ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาในเขตหนานโถว (Nantou) ภูมิทัศน์โดดเด่นด้วยผืนน้ำสีเขียวอมฟ้าใสสะท้อนเงาภูเขาที่โอบล้อม บางวันอาจมีสายหมอกบาง ๆ ปกคลุมเหนือผิวน้ำ เพิ่มความสวยงามดั่งภาพวาดให้กับสถานที่นี้

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.sunmoonlake.gov.tw

ชื่อสถานที่ “สุริยันจันทรา” มาจากลักษณะทางภูมิประเทศเมื่อมองจากมุมสูง โดยด้านทิศตะวันออกของทะเลสาบมีรูปร่างคล้ายดวงอาทิตย์ และด้านทิศตะวันตกคล้ายพระจันทร์เสี้ยว มีเกาะเล็ก ๆ ชื่อ “ลาลู” (Lalu) อยู่ตรงกลางทะเลสาบ เป็นการแบ่งเขตแดนระหว่างส่วนพระอาทิตย์และพระจันทร์ตามชื่ออย่างชัดเจน

ทะเลสาบสุริยันจันทราถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวไต้หวันเชิงธรรมชาติยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของไต้หวันที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกสนุกกับกิจกรรมหลากหลายอย่างรอบทะเลสาบ เช่น ล่องเรือ ชมวิวทิวทัศน์ แวะสักการะเทพเจ้าที่ “วัดเหวินอู่” (Wenwu Temple) ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ หรือปั่นจักรยานบนเส้นทางจักรยานเลียบทะเลสาบที่ได้รับการยกย่องในระดับโลก สำหรับสายเดินเขา รอบ ๆ ทะเลสาบก็มีทางเดินศึกษาธรรมชาติหลายเส้นทางให้เลือกสำรวจความงามของป่าเขาได้อย่างเต็มอิ่ม 

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.sunmoonlake.gov.tw 

นอกจากนี้ ในทุก ๆ ปีจะมีการจัดกิจกรรมว่ายน้ำข้ามทะเลสาบประจำปี ระยะทาง ~3 กิโลเมตรขึ้นในช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วง รวมถึงเทศกาลดอกไม้ไฟและการแสดงแสงสีช่วงปลายปีที่ดึงดูดผู้คนมากมายให้มาที่นี่ เรียกได้ว่า ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ทะเลสาบสุริยันจันทราก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่เปลี่ยนไปตามช่วงเวลา ทั้งความสงบในยามเช้า ความมีชีวิตชีวาของการทำกิจกรรมในช่วงกลางวัน และความสวยงามตระการตาในยามค่ำคืน

3. เขตนันทนาการป่าไม้แห่งชาติอาลีซาน และรถไฟสายอาลีซาน (Alishan Forest Area & Railway)

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://recreation.forest.gov.tw 

อาลีซาน (Alishan) เป็นดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เพราะที่นี่โด่งดังทั้งด้วยป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ บรรยากาศที่สวยงาม และเส้นทางรถไฟโบราณที่มีอายุกว่าร้อยปี โดยเขตนันทนาการป่าไม้แห่งชาติอาลีซานตั้งอยู่ในเขตเมืองเจียอี้ (Chiayi) อยู่บนพื้นที่สูงราว 2,000-2,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้ที่นี่มีอากาศเย็นสบายตลอดปีและมีระบบนิเวศป่าดิบเฉพาะตัว

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://recreation.forest.gov.tw 

นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเขตนันทนาการป่าไม้แห่งชาติอาลีซานจะได้สัมผัสกลิ่นอายธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์ของป่าเขา และมีโอกาสพบเห็นสัตว์ป่า เช่น นกสายพันธุ์หายาก หรือกวางป่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ และจุดเด่นที่ห้ามพลาดเลยก็คือ การไปนั่งรถไฟสายอาลีซาน (Alishan Forest Railway) รถไฟสีแดงที่มีความยาวประมาณ 71 กิโลเมตร ทำให้ระหว่างการเดินทาง นักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวของเขตนันทนาการป่าไม้แทบทุกแบบของไต้หวัน และยังได้สัมผัสบรรยากาศการเดินทางในอดีตของไต้หวันอีกด้วย

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://recreation.forest.gov.tw

และถ้าไปถึงเขตนันทนาการป่าไม้แห่งชาติอาลีซานแล้ว ก็ต้องไปทำกิจกรรมยอดฮิต ไม่ว่าจะเป็นการชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขาจูซาน (Zhushan Mountain) เดินเล่นบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ทอดผ่านป่าสนโบราณ เที่ยวชมบ่อน้ำสองพี่น้อง (姐妹潭: Sisters Ponds) บ่อน้ำกลางป่าที่มีตำนานพื้นเมืองแฝงอยู่ และในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน อาลีซานจะยิ่งงดงามเป็นพิเศษเพราะเป็น “ฤดูดอกซากุระบาน” ต้นซากุระกว่า 19,000 ต้นทั่วภูเขาจะผลิดอกสีชมพูสะพรั่งไปทั้งบริเวณ เป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่เลื่องชื่อที่สุดของไต้หวัน ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชมความงามสุดโรแมนติกนี้ทุกปี

4. ฟาร์มอู่หลิง (Wuling Farm)

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://travel.taichung.gov.tw 

จากเขตนันทนาการป่าไม้แห่งชาติอาลีซาน Taiwan Tourism TH ขอพานักท่องเที่ยวทุกคนมาสู่บรรยากาศธรรมชาติอีกแบบที่ ฟาร์มอู่หลิง (Wuling Farm) แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและธรรมชาติบนที่ราบสูงทางภาคกลางตอนเหนือของไต้หวัน ตั้งอยู่ในเขตเหอผิง (Heping) เมืองไถจง บนความสูงประมาณ 1,740-2,100 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีพื้นที่ราว 7 ตารางกิโลเมตร 

ที่นี่เดิมทีในอดีตเป็นถิ่นฐานของชาวพื้นเมืองเผ่าอตายัล (Atayal) ก่อนที่รัฐบาลจะจัดตั้งเป็นฟาร์มขึ้นในปี ค.ศ.1963 เพื่อส่งเสริมการปลูกพืชเมืองหนาวและสร้างงานให้ประชาชน ปัจจุบันฟาร์มอู่หลิงได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนยอดนิยม ท่ามกลางหุบเขาและสายน้ำบนภูเขาที่เงียบสงบ และอากาศเย็นสบายบริสุทธิ์ตลอดปี

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://travel.taichung.gov.tw 

ฟาร์มอู่หลิงมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในเรื่องของ “ดอกซากุระ” จนได้รับการยกย่องว่าเป็น “จุดชมซากุระที่สวยที่สุดในไต้หวัน” เพราะทุก ๆ ปีในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม ต้นซากุระกว่า 20,000 ต้นทั่วทั้งฟาร์มจะพากันผลิดอกบานสะพรั่ง กลายเป็นอุโมงค์สีชมพูยาวทั่วแนวถนนและริมลำธาร ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไต้หวันและต่างชาติหลั่งไหลมาชมความงามนี้กันอย่างเนืองแน่น แต่ในช่วงฤดูอื่น ๆ ฟาร์มอู่หลิงก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นความเขียวขจีของฟาร์มในช่วงฤดูร้อน สีเหลือง-แดงของใบไม้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรืออากาศหนาวเย็นและหิมะบนยอดเขาในฤดูหนาว

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://travel.taichung.gov.tw 

ภายในฟาร์มอู่หลิงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอื่น ๆ เช่น สวนดอกไม้สี่ฤดู ที่จัดแสดงไม้ดอกไม้ประดับตามฤดูกาล สวนผลไม้ และโรงน้ำชาที่นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้วิธีชงชาและชิมชาคุณภาพดีของท้องถิ่นได้ นอกจากนี้ บริเวณใกล้เคียงฟาร์มยังเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินป่ายอดนิยมสู่ยอดเขาหิมะ (Snow Mountain หรือ Xueshan) ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับสองของไต้หวัน (3,886 เมตร) สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการปีนเขา ฟาร์มอู่หลิงก็ถือเป็นพิกัดที่พลาดไม่ได้เลย

5. หมู่เกาะเผิงหู (Penghu Islands)

ปิดท้ายทริปเที่ยวไต้หวันเชิงธรรมชาติของเราด้วยการเปลี่ยนบรรยากาศจากภูเขามาสู่ท้องทะเลที่ หมู่เกาะเผิงหู กลุ่มเกาะเล็กใหญ่กว่า 90 เกาะกลางช่องแคบไต้หวัน เผิงหูได้รับสมญานามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งไต้หวัน” ด้วยทัศนียภาพที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ทั้งทะเลสีฟ้าใส หาดทรายขาวสะอาด และเสาหินบะซอลต์รูปร่างแปลกตาที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟโบราณ ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ยาก

ไฮไลต์สำคัญทางธรรมชาติของหมู่เกาะเผิงหู ได้แก่ หน้าผาหินบะซอลต์ ที่มีให้ชมหลากหลายแห่ง น้ำทะเลที่เหมาะแก่การว่ายน้ำและมาพักผ่อนหย่อนใจ ทะเลสาบน้ำเค็มและพื้นที่ชุ่มน้ำที่ดึงดูดนกทะเลหลากชนิดมาอาศัย และที่พลาดไม่ได้คือ กับดักปลาหัวใจคู่ หรือ Twin Heart Stone Weir สัญลักษณ์สุดโรแมนติกของเผิงหู ซึ่งเป็นกับดักปลาหินโบราณที่สร้างเป็นรูปหัวใจสองดวงเชื่อมกันกลางทะเลและจุดถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ เผิงหูยังมีกิจกรรมทางทะเลให้สนุกมากมาย เช่น การดำน้ำตื้นชมปะการัง พายเรือคายัก หรือเล่นวินด์เซิร์ฟและแล่นเรือใบ ทางด้านวัฒนธรรมและเทศกาล หมู่เกาะเผิงหูก็เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของเมืองท่าชาวประมงเก่าแก่ มีวัดโบราณและย่านเมืองเก่าที่น่าเดินชม และในช่วงฤดูร้อนของทุกปี ที่นี่ก็จะมีการจัดงาน เทศกาลดอกไม้ไฟนานาชาติเผิงหู ที่เป็น 1 ในเทศกาลที่มีชื่อเสียงที่สุดของไต้หวันและโด่งดังไปทั่วโลก ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์น่าประทับใจที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนไต้หวัน

ทั้ง 5 สถานที่เที่ยวไต้หวันเชิงธรรมชาติที่ Taiwan Tourism TH พาทุกคนไปสำรวจกันในวันนี้ ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายอันน่าทึ่งของธรรมชาติในไต้หวัน และเต็มไปด้วยความงามและเสน่ห์เฉพาะตัวที่รอให้คุณได้ไปค้นหาและสัมผัสกันด้วยตัวเอง แพ็กกระเป๋าให้พร้อม แล้วออกเดินทางไปสัมผัสเสน่ห์ของธรรมชาติไต้หวันด้วยตัวเองกันเถอะ!