เมื่อพูดถึงร้านอาหารมิชลิน โลเคชันที่จะพาทุกคนเข้าสู่ความอร่อยได้ง่ายที่สุด คงต้องเริ่มที่ กรุงไทเป เมืองหลวงที่ผสมผสานประสบการณ์ทางรสชาติแบบดั้งเดิมเข้ากับนวัตกรรมใหม่ ๆ ภายใต้การแนะนำของมิชลินไกด์ ที่นำพาร้านอาหารชั้นนำมากมายในไทเป เพื่อดึงดูดความสนใจจากคนทั่วโลกด้วยทักษะการทำอาหารที่ยอดเยี่ยมและแนวคิดที่สร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นอาหารตะวันตกที่ละเอียดอ่อนประณีต ไปจนถึงอาหารไต้หวันแบบดั้งเดิม ต่างก็ได้รับการตีความใหม่ในศตวรรษนี้ อยากให้ทุกคนมาลองชิมกัน
มาทำความรู้จัก “ดาวมิชลิน” และ “มิชลินเพลท” ก่อนออกเดินทาง
ร้านอาหารในลิสต์นี้ครอบคลุมทั้งร้านที่เคยได้รับ “ดาวมิชลิน” และร้านที่ได้รับ “มิชลินเพลท” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศด้านอาหารที่แตกต่างกัน
- ดาวมิชลิน (Michelin Star): เปรียบเสมือนมงกุฎอันเจิดจรัสในโลกอาหาร แบ่งเป็นหนึ่งถึงสามดาว ซึ่งเป็นคำชมเชยขั้นสุดยอดสำหรับรสชาติและแรงบันดาลใจในการทำอาหาร
- มิชลินเพลท (Michelin Plate): คือการการันตีความอร่อยในอีกรูปแบบหนึ่ง แม้ว่าจะยังไม่ถึงระดับการคว้าดาว แต่ก็ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ไม่ธรรมดาในด้านความสดใหม่ของวัตถุดิบและฝีมือการปรุงอาหาร
บทความนี้จึงได้คัดสรรร้านอาหารมิชลินทั้งสิ้น 11 ร้านที่อยู่ในไทเป คู่ควรแก่การไปเยือนมาฝากทุกคน เตรียมตัวออกเดินทางสู่สวรรค์ของนักชิมกันได้เลย!
อาหารยุโรป
- Molino de Urdániz
- A-cut Steakhouse
- JE Kitchen
อาหารญี่ปุ่นชั้นเลิศ
- Orchid Restaurant
- Tajimaya Shabu Shabu
อาหารไต้หวันแบบดั้งเดิมและฟิวชั่น
- Golden Formosa
- Toh-A’
- Indulge Bistro
- 3 Coins Restaurant
- 85TD
อาหารไทยต้นตำรับ
- Thai & Thai
สัมผัสประสบการณ์อาหารสเปน – ฝรั่งเศสสุดหรูที่ Molino de Urdániz

ขอบคุณรูปภาพจาก www.vogue.com.tw
Molino de Urdániz ร้านมิชลิน 2 ดาว ผสมผสานความเลิศรสของอาหารสเปนและฝรั่งเศสเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เมนูหลักที่เน้น จะเป็นอาหารทะเล โดยเชฟได้นำสุนทรียศาสตร์มาใส่ไว้ในทุกจาน สร้างสรรค์จานหลักที่ไม่เพียงแต่โดดเด่นเรื่องรสชาติ แต่ยังดึงดูดสายตา ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับมาดินเนอร์มื้อสำคัญโดยเฉพาะ! ภายในร้านตกแต่งด้วยงานศิลปะและภาพวาดสไตล์สเปนนานาชนิด พร้อมตู้ไวน์โปร่งใสที่เก็บไวน์จากทั่วโลก ทำให้แขกที่มาเยือนรู้สึกเหมือนได้ก้าวเข้าสู่บรรยากาศต่างแดนของสเปนอย่างแท้จริง
เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน: เชฟ David ชาวสเปน ได้สร้าง “สวนลับ” ในร้านอาหารเพื่อใช้แรงบันดาลใจจากวัตถุดิบใกล้ตัวมาสร้างสรรค์เมนูที่ไม่ซ้ำใคร และเมนูเหล่านี้ คือเมนูเด่นที่ต้องลอง
- Molino’s Backyard: เมนูที่ใช้แนวคิดของอาหารโมเลกุล โดยนำหอยนางรมมาจับคู่กับพาเมซานชีส นม และซอสสมุนไพรที่ให้ความสดชื่น เพื่อสร้างรสสัมผัสขณะทานที่เข้มข้น
- Black Pearl: “ไข่มุกสีดำ” ที่มีลวดลายหินอ่อนสีแดงกุหลาบ โดดเด่นด้วยการนำบลูชีสมาหมัก ก่อนโรยหน้าด้วยเห็ดทรัฟเฟิลที่ฝานอย่างบางเบา แนะนำให้ทานคู่กับซอสน้ำตาลเคี่ยวกระเทียม เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมลงตัว
- SOAP BAR: ของหวานปิดท้ายที่มีรูปลักษณ์สวยงามราวกับเมนูในความฝัน และยังผสานกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ กุหลาบ และตะไคร้เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อเป็นการปิดฉากงานเลี้ยงสุดพิเศษนี้อย่างสมบูรณ์แบบ
นอกเหนือจากมื้อกลางวันและมื้อค่ำที่น่าประทับใจแล้ว อาหารเช้าสไตล์มิชลิน ของ Molino de Urdániz ก็ได้รับคำชมอย่างล้มหลามและควรค่าแก่การมาลิ้มลอง อาหารเช้าสไตล์สเปนแบบดั้งเดิมนี้ประกอบด้วยองค์ประกอบหลากหลาย เช่น แฮมรมควัน ชีสที่คัดสรรมาอยากดี โทสต์เนยคาราเมล และแยมโฮมเมด คุณสามารถจับคู่ส่วนผสมเหล่านี้ได้เองตามที่ต้องการ เพื่อเริ่มต้นวันใหม่ด้วยประสบการณ์อาหารเช้าในแบบตะวันตกที่อร่อยและเป็นเอกลักษณ์ที่สุด ได้ที่นี่
ตำนานที่ยังมีลมหายใจ Golden Formosa ร้านอาหารไต้หวันมิชลิน 1 ดาว 7 ปีซ้อน!

ขอบคุณรูปภาพจาก www.vogue.com.tw
Golden Formosa ร้านอาหารไต้หวันที่ได้รับรางวัลมิชลิน 1 ดาวในไทเปต่อเนื่องเป็นเวลา 7 ปีซ้อนที่ สืบทอดมาจนถึงรุ่นที่สาม ไม่เพียงแต่ได้รับการยอมรับจากสื่อทั้งในและต่างประเทศ แต่ยังเป็นร้านโปรดของนักการเมือง นักธุรกิจชื่อดัง และศิลปินอีกหลายคน ตัวร้านดูจากภายนอกจะให้ความรู้สึกเรียบง่ายและเป็นกันเอง แต่เมื่อก้าวเข้าไปด้านใน คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่อบอุ่นและมีระดับด้วยการตกแต่งที่เน้นวัสดุไม้เป็นหลัก พร้อมภาพเขียนพู่กันจีนที่ประดับอยู่ตามผนัง สะท้อนถึงการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบระหว่างความอบอุ่นและความดั้งเดิมของไต้หวัน
เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน:
- ซี่โครงหมูทอดเผิงไหล: ซี่โครงสีเหลืองทอง กรอบนอกนุ่มใน เมื่อกัดลงไปจะสัมผัสได้ถึงรสชาติที่เข้มข้น ด้วยเครื่องเทศที่หมักมาอย่างดี เมนูนี้การันตีว่าทุกโต๊ะต้องสั่ง
- หมี่ซั่วปลาอินทรีในหม้อไฟ: น้ำซุปที่กลมกล่อมเข้มข้น จากเผือกและปลาหมึกที่นำไปทอด รวมถึงส่วนผสมอื่น ๆ ทำให้ทุกคำที่ได้ทานจะได้กลิ่นหอมที่เข้มข้น
- พระกระโดดกำแพง: เมนูนี้ได้รับคำแนะนำเป็นพิเศษจากมิชลินไกด์ ทำจากหอยเป๋าฮื้อ หอยเชลล์ และวัตถุดิบอีกหลายชนิด เคี่ยวจนได้น้ำซุปที่เข้มข้นและหวานหอม
- หมี่ซั่วหอยเม่นผัดต้นหอมกับโสม: เมนูสำหรับคนรักหอยเม่น ที่ต้องสั่งล่วงหน้าเท่านั้น! เส้นหมี่ซั่วถูกผัดคลุกเคล้ากับหอยเม่นสด ๆ และกลิ่นหอมของต้นหอมที่คั่วกับกระทะอย่างช้า ๆ ผสานเข้ากับหอยเม่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
หากคุณต้องการลิ้มรสอาหารไต้หวันแบบดั้งเดิมที่ถูกถ่ายทอดด้วยความรักและคงมาตรฐานระดับโลก Golden Formosa คือจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาดในไทเป!
Orchid Fine Dining สไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัยที่ผสานรสชาติไต้หวัน
Orchid เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นร่วมสมัยแบบ Fine Dining ที่ได้รับรางวัลมิชลินเพลทติดต่อกันถึง 6 ปี อาหารของร้านแสดงให้เห็นถึงความประณีตและเทคนิคที่เคร่งครัดของอาหารญี่ปุ่น ขณะเดียวกันก็มีการนำวัตถุดิบท้องถิ่นของไต้หวันมาผสมผสานอย่างชาญฉลาด บรรยากาศของร้านก็โดดเด่นจากการใช้คู่สีดำ-ทอง มาออกแบบสร้างสรรค์พื้นที่ที่หรูหรา ให้ความรู้สึกสุขุม ทำให้แขกผู้มาเยือนได้สัมผัสถึงความละเอียดอ่อนและนุ่มนวลอันเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นตลอดมื้ออาหาร

ขอบคุณรูปภาพจาก www.vogue.com.tw
เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน:
- พายเนื้อวากิว: เมนูอาหารจานหลักคลาสสิกของร้าน มีเนื้อสันในวากิว A5 ของญี่ปุ่นเป็นวัตถุดิบหลัก โดยใช้เนื้อแก้มวากิวแทนตับห่านแบบดั้งเดิม ด้านนอกเคลือบด้วยเห็ดบดแล้วห่อด้วยผักโขม อบจนมีสีเหลืองทองกรอบ น่ารับประทาน
- วากิว A5 บ่มหิมะ: เนื้อที่ผ่านการบ่มเป็นเวลาสามสัปดาห์ แล้วนำไปอบให้สุกอย่างช้า ๆ เสิร์ฟพร้อมซอสที่ทำจากหางวัวอบ เพื่อดึงรสชาติความหวานตามธรรมชาติที่แท้จริงของเนื้อออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
- เนื้อสันในแกะ: หมักด้วยวัตถุดิบญี่ปุ่นอย่าโคจิมิโสะ และสาเก ก่อนเสิร์ฟจะเพิ่มรสชาติด้วย ซอสพริกไทยภูเขาสไตล์ไต้หวัน ทำให้เนื้อแกะมีกลิ่นหอมกำลังดี
Orchid เป็นร้านที่รับประกันว่าทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่การตกแต่งร้านไปจนถึงจานอาหาร จะมอบความประทับใจที่ไม่รู้ลืมแก่ผู้มาเยือนอย่างแน่นอน!
Tajimaya Shabu Shabu – สุนทรียศาสตร์แห่งหม้อไฟญี่ปุ่น

ขอบคุณรูปภาพจาก www.vogue.com.tw
ทาจิมายะ ชาบูชาบู ร้านที่เป็นตัวแทนของหม้อไฟญี่ปุ่นระดับพรีเมียมในไทเป โดยยึดหลักปรัชญาของชาบูชาบูแบบดั้งเดิม ผสมผสานความใส่ใจและไหวพริบของช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เกิด “เทรนด์การกิน” รูปแบบใหม่ การตกแต่งร้านออกแบบโดยใช้เทคนิคแสงและเงาอย่างโดดเด่น ใช้สีขาวเป็นฉากหลังเพื่อสร้างความรู้สึกกว้างขวาง และจับคู่กับโต๊ะหินแกรนิตสีเทาดำ ทำให้เกิดบรรยากาศที่สงบและหรูหรา เหมาะสำหรับการนัดเดทหรือทานมื้ออาหารสุดพิเศษกับเพื่อนสนิทอย่างยิ่ง
เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน:
- ปูหิมะญี่ปุ่น: เนื้อที่สดและแน่นของปูทำให้อาหารจานนี้พิเศษ เนื้อสัมผัสหนึบและเด้ง ละลายในปาก ส่วนมันปูมีความเข้มข้น มีรสหวาน ทานแล้วสดชื่น
- เนื้อสั้นซี่โครงคลาสสิก: โดดเด่นด้วยลายไขมันที่สวยงามสม่ำเสมอ เมื่อจุ่มลงในน้ำซุปกระดูกหมูและคอมบุสไตล์ญี่ปุ่นเพียงชั่วครู่ จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อนน่าทาน การทานแบบไม่จิ้มซอสจะทำให้สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมของนมจาง ๆ อีกด้วย
- โจ๊ก: ถือเป็นไฮไลต์สำคัญของมื้อ เชพจะนำน้ำซุปเข้มข้นจากผักและอาหารทะเลมารวมกัน แล้วนำข้าวโคชิฮิคาริ มาเคี่ยวอย่างช้า ๆ ก่อนราดด้วยไข่และสาหร่ายต้นหอม โจ๊กแต่ละคำจะดูดซับน้ำซุปไว้เต็ม ๆ เป็นเมนูปิดท้ายมื้อที่สมบูรณ์แบบที่สุด
Toh-A’ – การตีความใหม่ของ Street Food สู่ Fine Dining

ขอบคุณรูปภาพจาก www.vogue.com.tw
Toh-A’ ซ่อนตัวอยู่ในบ้านเก่าสไตล์ญี่ปุ่นใจกลางเมือง เมื่อเดินผ่านทางเข้าที่มีน้ำไหลรินและทางเดินที่ปูด้วยกระเบื้องโบราณ จะพบกับร้านอาหารอายุแปดสิบปีแห่งนี้ บรรยากาศภายในผสมผสานความเก่าและใหม่เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยคานไม้และโคมไฟระย้าที่ห้อยลงมาอย่างมีศิลปะ แม้แต่ภาชนะสำหรับเสิร์ฟก็ยังถูกคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน
เทคนิคการทำอาหารของ Toh-A’ เน้นการผสมผสานองค์ประกอบแบบไต้หวันเข้ากับเทคนิคแบบฝรั่งเศส โดยนำเสนอเป็นคอร์สเมนูครบชุด 5-7 คอร์ส ตั้งแต่จานเรียกน้ำย่อยจนถึงจานปิดท้ายอย่างของหวาน และได้รับรางวัลมิชลินเพลทมาแล้วหลายปี
เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน:
- โจ๊กล็อบสเตอร์ทะเล: เมนูนี้ต้องจองล่วงหน้า! โจ๊กถูกเคี่ยวเป็นเวลานาน จนได้รสชาติเข้มข้นของล็อบสเตอร์และอาหารทะเลจนเข้ากับเนื้อข้าวได้อย่างลงตัว
- ซุปกุ้งล็อบสเตอร์คอนยัคเสิร์ฟพร้อมหมี่ซั่วไถหนาน: การผสมผสานรูปแบบใหม่! พนักงานจะเสิร์ฟ หมี่ซั่วไต้หวันแบบดั้งเดิม ก่อนจะรินซุปกุ้งล็อบสเตอร์คอนยัคเข้มข้นลงบนบะหมี่อย่างช้า ๆ เป็นเมนูที่สร้างรสชาติที่ลงตัวอย่างไม่คาดคิด ต้องมาลองให้ได้
- ทรัฟเฟิลทะลัก: อีกเมนูที่ต้องจอง ทรัฟเฟิลห่อด้วยไข่แดงเข้มข้นที่จะไหลทะลักเมื่อหั่น หากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบในการทานเห็ดทรัฟเฟิล ห้ามพลาดเมนูนี้เลย
Indulge Bistro – บาร์และร้านอาหารที่ใช้ ‘ชา’ เป็นหัวใจหลัก

ขอบคุณรูปภาพจาก www.vogue.com.tw
Indulge Bistro ไม่เพียงแต่ได้รับรางวัลมิชลินเพลทต่อเนื่องถึง 4 ปี แต่ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งใน 50 บาร์ที่ดีที่สุดในโลกและเอเชียอีกด้วย! เจ้าของร้านได้สร้างสรรค์ที่นี่ให้เป็น “บาร์ที่ผสมชาในเครื่องดื่ม” ส่วนด้านอาหารเน้นการผสมผสานวัตถุดิบท้องถิ่นเข้ากับเทคนิคแบบตะวันตก เพื่อสร้างสรรค์เมนูอาหารฟิวชั่นที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
การตกแต่งร้านใช้สไตล์นอร์ดิก ที่มีกลิ่นอายของไม้ แสงไฟสลัว ๆ และดนตรีที่ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย หากคุณต้องการร้านอาหารมิชลินที่คุณสามารถนั่งพักผ่อนได้อย่างสบาย ๆ ที่นี่คือตัวเลือกที่ดี
เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน:
- ปลาหมึกตกเบ็ด: เนื้อปลาหมึกนุ่มละมุน ผสานกับมันฝรั่งบดรสเฟนเนล และปลาแซลมอนรมควัน ทำให้เกิดการรวมกันของรสสัมผัสที่หลากหลายในจานเดียว
- เต้าหู้ไข่: Indulge Bistro เมนูที่นำเต้าหู้ไข่มาตีความใหม่ ด้วยการผสมกับกุ้งบด ซอสหัวหอมไหม้ และหอยเชลล์ ที่จะมาสร้างความแปลกใหม่ให้กับรสชาติอาหาร
- ญ็อกกี (Gnocchi): ญ็อกกีเสิร์ฟคู่กับหอมแดง หมูสามชั้นตุ๋น เห็ดชาทรีทอดกรอบ และราดด้วยซอสมะเขือเทศรสเผ็ด แต่ละจานแสดงให้เห็นถึงการควบคุมรสชาติและความคิดสร้างสรรค์ของเชฟอย่างชัดเจน
A-cut Steakhouse – สเต๊กชั้นเลิศที่อบอุ่น

ขอบคุณรูปภาพจาก www.vogue.com.tw
ในบรรดาร้านสเต๊กชั้นนำที่มีการแข่งขันสูง A-cut Steakhouse ยังคงโดดเด่นไม่แพ้ใคร ชื่อ “A-cut” ไม่เพียงสื่อถึงการคัดเลือกเนื้อวัวเกรดพรีเมียมเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการยึดมั่นในคุณภาพสูงสุด ร้านมีห้องบ่มเนื้อ (Dry-Aging Room) เป็นของตัวเอง ทีมเชฟใช้เทคนิคการปรุงอาหารที่ยอดเยี่ยมและสร้างสรรค์ ผสมผสานกับแนวคิด Bistro Style ที่เน้นความผ่อนคลายและความสะดวกสบาย ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่มอบประสบการณ์สเต๊กที่สมบูรณ์แบบและอบอุ่น
เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน:
- เค้กปูสไตล์ไทย: จานเรียกน้ำย่อย รสสัมผัสกรอบนอกเมื่อกัดเข้าไปจะสัมผัสได้ถึงรสเปรี้ยว เผ็ด และหอมแบบไทย ๆ พร้อมความหวานฉ่ำของเนื้อปูเต็มคำ รับประกันความอร่อยที่ช่วยเปิดต่อมรับรสได้เป็นอย่างดี
- สเต๊กเนื้อซี่โครงติดกระดูก Dry-Aged 30 วัน: จานหลักของร้านที่ไม่สั่งไม่ได้! เนื้อผ่านกระบวนการดรายเอจอย่างพิถีพิถัน ชุ่มฉ่ำและคงไว้ซึ่งรสชาติดั้งเดิมของเนื้อวัว แต่มีกลิ่นและรสชาติที่ซับซ้อนและเข้มข้นยิ่งขึ้น
- ซูเฟล่ช็อกโกแลตเข้มข้น: ซูเฟล่ผิวเบาและฟูฟ่อง แต่ซ่อนความเข้มข้นของช็อกโกแลตไว้ภายใน เป็นการปิดท้ายมื้ออาหารที่สมบูรณ์แบบที่สุด
Thai & Thai – ราชสำนักไทยในไทเป
Thai & Thai ตั้งอยู่ในโรงแรม Mandarin Oriental ไทเป เป็นร้านอาหารไทยระดับพรีเมียม ที่นี่เน้นการใช้วัตถุดิบที่นำเข้าจากประเทศไทย และใช้กระทิคั้นสดใหม่ อาหารผสมผสานกับเครื่องเทศ สมุนไพร และผักสด เพื่อนำเสนอรสชาติไทยดั้งเดิม การตกแต่งภายในเน้นสไตล์พระราชวังหรูหรา รวมถึงการใช้ทองคำเปลวแกะสลักบนผนัง ภาพวาดปัก และโคมไฟระย้าแบบคลาสสิก

ขอบคุณรูปภาพจาก www.vogue.com.tw
เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน:
- กุ้งลายเสือผัดกระชาย: กุ้งลายเสือตัวใหญ่ ถูกทอดด้วยไฟแรงกลายเป็นสีทอง กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟคู่กับพริกสดและมะเขือเปราะ สร้างมิติของรสชาติที่ซับซ้อน
- ปูเนื้อผัดผงกะหรี่: เมนูโปรดของนักชิม! กลิ่นหอมเข้มข้นและรสชาติเผ็ดมันของผงกะหรี่เข้ากันดีกับเนื้อปู แนะนำให้สั่ง ขนมปังฝรั่งเศส มาจิ้มซอสที่เข้มข้น รับรองว่าฟินสุด ๆ
- ซี่โครงหมูภูเขาไฟ: นอกจากการจัดเสิร์ฟมาอย่างอลังการ แต่รสชาติก็อลังการไม่แพ้กัน เนื้อซี่โครงหมูถูกปรุงจนนุ่มละมุน ผสมผสานกับซอสรสจัดจ้านและมีเอกลักษณ์ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาด
JE Kitchen – Fine Dining ยุโรปร่วมสมัย
ในโซนย่านตะวันออกของไทเปที่มีร้านอาหารมากมาย JE Kitchen ซึ่งได้รับรางวัลมิชลินเพลทต่อเนื่องถึง 5 ปี เป็นร้านที่ไม่มีใครแทนที่ได้ ที่นี่ผสมผสานเทคนิคการทำอาหารฝรั่งเศสและนอร์ดิกเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ยังใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล เพื่อสร้างสรรค์อาหารยุโรปร่วมสมัยที่มีความประณีต ในทุกครั้งที่คุณมาเยือน คุณจะพบกับประสบการณ์ใหม่ ๆ เสมอ
การตกแต่งภายในที่เรียบง่ายแต่สง่างาม ผสมผสานกับการจัดแสงที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ทำให้ผลงานแต่ละจานถูกนำเสนอออกมาได้อย่างน่าดึงดูดใจที่สุดบนโต๊ะอาหาร
เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน:
- เนื้อสันในวากิว A5: แม้ว่าเมนูร้านนี้จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล แต่เมนูเด่นก็ต้องไม่พลาด เนื้อสันในวากิว A5 เนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุนและไขมันที่ละลายในปาก
- นกกระทาอบ: นกกระทาอบ ที่เพิ่มความหอมด้วยเนยสมุนไพร เสิร์ฟคู่กับฮัมมัส และซอสเบคอน
- ซุปหัวหอม: เมนูเดียวที่คงอยู่ตลอดปี! ด้านบนเป็นชั้นคาราเมลหัวหอมที่อบจนกรอบหอมกรุ่น เมื่อผสมกับเนยซุปทั้งถ้วยจะส่งกลิ่นหอมกรุ่นของครีม นี่คือเมนูคลาสสิกที่นักชิมทุกคนไม่ควรพลาด

ขอบคุณรูปภาพจาก www.vogue.com.tw
Three Coins – ตำนานอาหารกวางตุ้งสไตล์ไต้หวัน
Three Coins เป็นร้านอาหารจีนกวางตุ้งที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในไต้หวัน ภายในร้านจัดแสดงของเก่าอย่างมีรสนิยม แต่ละชิ้นสะท้อนถึงภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง ที่นี่เป็นผู้ริเริ่มอาหารกวางตุ้งสไตล์ไต้หวัน โดยผสานเทคนิคแบบกวางตุ้งดั้งเดิมเข้ากับอาหารฮ่องกง เพื่อสร้างรสชาติที่ถูกปากคนไต้หวัน เมนูซิกเนเจอร์อย่าง เป็ดปักกิ่งสไตล์ฮ่องกง และ ห่านย่างหนังกรอบ ได้ดึงดูดนักชิมนับไม่ถ้วน และยังเคยได้รับรางวัล ดาวมิชลิน 1 ดาวต่อเนื่องถึง 3 ปี

ขอบคุณรูปภาพจาก www.vogue.com.tw
เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน:
- เป็ดปักกิ่งสไตล์ฮ่องกง / ห่านย่างหนังกรอบ: รสชาติเค็มหวานลงตัว หนังเป็ดและห่านถูกย่างจนเป็นสีคาราเมลฉ่ำวาว ทุกครั้งที่หั่นจะได้ยินเสียงความกรอบของหนัง เมื่อทานด้วยการห่อด้วยแป้ง จะได้รสสัมผัสของความหอมจากแป้ง และความมันของหนังที่ละลายในปาก
- หอยเป๋าฮื้อในซุปไข่ขาวสีทอง: ซุปสีเหลืองทองอ่อน ๆ ที่ได้จากการเคี่ยวอย่างพิถีพิถัน เสิร์ฟพร้อมหอยเป๋าฮื้อ มอบประสบการณ์บำรุงร่างกายที่เลอค่าที่สุด
- ปลาเก๋ามังกรเสือ: เนื้อปลาเก๋าละเอียดนุ่มละมุน สามารถเลือกปรุงได้หลายวิธี แต่แนะนำสั่งแบบ “ผัดพริกกระเทียมสไตล์ฮ่องกง” ที่จะให้กลิ่นหอมของกระเทียมกรอบและรสเผ็ดอ่อน ๆ ที่ทานคู่กับข้าวสวยได้อย่างดีเยี่ยม
85TD – สัมผัสรสชาติอาหารจีนแนวร่วมสมัย บนยอดตึกไทเป 101

ขอบคุณรูปภาพจาก www.vogue.com.tw
ตั้งอยู่บนชั้น 85 ของตึกไทเป 101 ตามชื่อ ภายใต้การดูแลของเชฟชาวฮ่องกงที่มีประสบการณ์ด้านอาหารกวางตุ้งถึง 50 ปี เชฟผสมผสานวัตถุดิบและลักษณะการกินของไต้หวันเข้าด้วยกัน สร้างสรรค์เป็น “อาหารจีนสมัยใหม่” ที่มีทั้ง “8 รสชาติ” และ “5 เทคนิค” การตกแต่งร้านใช้สีเขียวมะกอกและสีทองเหลืองเป็นหลัก พร้อมโต๊ะหินอ่อนและโซฟากำมะหยี่ที่สร้างบรรยากาศโมเดิร์นที่หรูหรา แนะนำให้คุณจองที่นั่งริมหน้าต่าง เพื่อเพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศพร้อมชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของเมืองไทเปจากมุมสูง
เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน:
- บาร์บีคิวหมูแดงจักรพรรดิ: เมนูนี้เป็นดาวเด่นและมีจำนวนจำกัดต่อวัน! เนื้อหมูมีไขมันแทรกอย่างสม่ำเสมอ ซอสมีรสชาติเค็มหวานที่ลงตัว ทำให้คุณได้สัมผัสคำว่าละลายในปากอย่างแท้จริง
- ปูเนื้อกับเนื้อหมูนึ่งเห็ดหอม: เนื้อหมูบดผสมกับเห็ดหอมและไข่ได้อย่างลงตัว ให้เนื้อสัมผัสนุ่มและเด้ง ก่อนจะราดด้วยเหล้าชั้นดีที่ให้กลิ่นหอม เพิ่มมิติของรสชาติไปอีกขั้น
- เนื้อวัวต้มน้ำมันรสเผ็ด: เมนูคลาสสิกของเสฉวน! เนื้อวัวนุ่ม ๆ ผสมผสานกับน้ำมันพริกและพริกไทยเสฉวนที่หอมและเผ็ดชา ทำให้ทุกคำที่คุณทานมีรสชาติทั้งเผ็ด ชา และหอมกลิ่นพริกอย่างครบครัน!
ขอบคุณข้อมูลจาก:
https://hny.link/4JE5R2u