แนวปะการังตงซา (Dongsha Atoll) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทะเลจีนใต้ มีลักษณะเป็นแนวปะการังวงแหวนคล้ายพระจันทร์เต็มดวง เกิดจากการก่อตัวของปะการังที่ใช้เวลากว่าสิบล้านปี ภูมิประเทศและระบบนิเวศเฉพาะตัวของที่นี่ ทำให้แนวปะการังตงซาอุดมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพใต้ท้องทะเล จนได้รับการจัดตั้งให้เป็น อุทยานแห่งชาติแนวปะการังตงซา (Dongsha Atoll National Park) โดยมีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ใจกลางแนวปะการัง พร้อมเขตน่านน้ำรอบนอกอีก 12 ไมล์ทะเล มีพื้นที่รวมทั้งทางบกและทางทะเลกว่า 3,536.68 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าอุทยานแห่งชาติทั้ง 6 แห่งในไต้หวันรวมกัน และมีขนาดราวหนึ่งในสิบของพื้นที่เกาะไต้หวัน พื้นที่อุทยานครอบคลุมระบบนิเวศหลากหลาย ทั้งเกาะ, ป่าชายเลน, ลากูน หรือเขตทะเลสาบน้ำเค็มเรียบฝั่ง (Lagoon), ชายฝั่ง, แนวปะการัง, ทุ่งหญ้าทะเล และมหาสมุทรซึ่งแตกต่างจากระบบนิเวศตามชายฝั่งทั่วไปของไต้หวัน อีกทั้งมีความหลากหลายมากกว่าระบบนิเวศบนบกอย่างชัดเจน
อุทยานแห่งชาติแนวปะการังตงซาก่อตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 2007 เเนวปะการังที่แม้จะมีชื่อเสียงโด่งดังแต่กลับไร้ผู้คนพลุกพล่านแห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณจุดตัดระหว่าง ฮ่องกง, ไต้หวัน และเกาะลูซอน (Luzon Island) เป็นดั่งประตูทางใต้ของช่องแคบไต้หวัน (Taiwan Strait) หรือช่องแคบฟอร์โมซา (Formosa Strait) โดยแนวปะการังตงซาห่างจากเมืองเกาสงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 444 กิโลเมตร และห่างจากเกาะไท่ผิง (Taiping Island)ไปทางใต้ประมาณ 1,185 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 500,000 ไร่ก่อร่างขึ้นจากปะการังที่ใช้เวลานับล้านปีสร้างตัว และอยู่ภายใต้เขตการปกครองของเทศบาลเมืองเกาสง
ภายในแนวปะการังวงแหวนที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 25 กิโลเมตร มีเพียง “เกาะตงซา” เท่านั้นที่โผล่พ้นน้ำตลอดปี เกาะมีลักษณะคล้ายเกือกม้า มีพื้นที่ประมาณ 1,087.5 ไร่ ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบต่ำ จุดสูงสุดเพียง 7.8 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ผืนดินปกคลุมด้วยทรายเปลือกหอย มีพืชพุ่มเขตร้อนกระจายตัวอยู่ทั่วไป บริเวณตะวันตกของเกาะมีสันทรายสองเส้นทอดโค้งล้อมลากูนขนาดเล็กที่มีความลึกไม่ถึง 1 เมตร ลักษณะคล้ายก้ามปู แนวปะการังตงซามีความยาวราว 46 กิโลเมตร กว้างประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อระดับน้ำทะเลลดแนวปะการังจะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ ฐานของแนวปะการังแห่งนี้ตั้งอยู่บนบริเวณพื้นที่ลาดทวีป (continental slope) ที่มีความลึกประมาณ 300-400 เมตร เรียกว่า ที่ลาดตงซา ประกอบกับลักษณะภูมิประเทศหลายรูปแบบ ทั้งแนวปะการัง, ลากูน, สันทรายตื้น, หาดน้ำตื้น และลำคลอง ถือเป็นหนึ่งในภูมิทัศน์ธรรมชาติทางทะเลระดับโลก ปะการังกลุ่มหลักที่สร้างแนวปะการังนี้คือ ปะการังกิ่งก้าน (Branching Coral) และปะการังโต๊ะ (Table Coral) ซึ่งเป็นปะการังที่เติบโตในเขตทะเลเขตร้อน สอดคล้องกับสภาพอากาศของหมู่เกาะที่อยู่ในเขตอุณหภูมิอบอุ่น มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีอยู่ที่ 26 องศา ปะการังเหล่านี้มักเกาะกลุ่มอยู่บริเวณสันและร่องด้านข้างแนวปะการัง โดยปัจจุบันมีการบันทึกปะการังถึง 250 ชนิด และมีถึง 14 ชนิดที่เป็นการค้นพบใหม่ เช่น ปะการังสีน้ำเงิน (Blue Coral) และปะการังแปดแขน (Octocorals)
แนวปะการังที่กว้างใหญ่แห่งนี้ยังเป็นแหล่งอาศัยสำคัญของสัตว์ทะเลนานาชนิด พบปลามากกว่า 556 สายพันธุ์ บางสายพันธุ์ไม่เคยปรากฏในเขตทะเลไต้หวันมาก่อน เช่น ปลาบู่เหลือง-น้ำตาลสายพันธุ์ Callogobius, ปลานกแก้ว (Parrotfish), ปลาจิ้มฟันจระเข้สายพันธุ์ Syngnathus schmidti, ปลาเก๋า (Groupers) และปลาสวยงาม (Wrasses) นอกจากนี้ยังพบสัตว์ทะเลไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น หอย 175 ชนิด, สัตว์ผิวหนาม (Echinoderms) 28 ชนิด และสัตว์กลุ่มครัสเตเชียน (Crustacean) 33 ชนิด เช่น ปลิงทะเล (Sea cucumbers) ปู และปลาดาว (Starfish) อีกทั้งบริเวณน่านน้ำโดยรอบยังเป็นเส้นทางอพยพของวาฬและโลมา ที่นี่จึงเป็นบริเวณที่สามารถพบเห็นสัตว์สองชนิดนี้ได้อีกด้วย
ในขณะเดียวกันพื้นที่ส่วนลากูน ชายฝั่ง และเขตน้ำตื้นรอบเกาะตงซายังเป็นแหล่งพักระหว่างทางของเหล่านกอพยพ และที่อยู่อาศัยของนกประจำถิ่นกว่า 130 ชนิด โดยมากพบเป็นนกในวงศ์นกชายเลน (Sandpiper), วงศ์นกกระสา (Ardeidae) และวงศ์นกนางนวล (Laridae) แต่เนื่องจากเกาะตงซามีขนาดเล็กและภูมิประเทศที่ค่อนข้างเรียบ ทำให้ระบบนิเวศบนค่อนข้างจำกัดและมีความหลากหลายน้อยกว่า โดยพบพืชพื้นเมืองเพียง 72 ชนิด และแมลง 125 ชนิด
ด้วยตำแหน่งที่ตั้งในเส้นทางเดินเรือหลักของทะเลจีนใต้ แนวปะการังตงซาในอดีตจึงเป็นเส้นทางในการสัญจรไปมาของเรือประมงและเรือพาณิชย์มาโดยตลอด แต่ด้วยความที่บริเวณนี้มีโขดหินและแนวสันตื้นซ่อนอยู่มาก อีกทั้งเป็นพื้นที่ส่วนทะเลที่มักได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นในช่วงฤดูร้อน จึงเกิดอุบัติเหตุทางทะเลเป็นระยะ ปัจจุบันมีการบันทึกซากเรืออับปางบริเวณใกล้เคียงแนวปะการังตงซามากถึง 28 ลำ เชื่อว่าพื้นที่ใต้ทะเลบริเวณนี้ยังซ่อนสมบัติทางวัฒนธรรมไว้อย่างมหาศาล จนได้รับความสนใจจากนักโบราณคดีใต้น้ำ (Underwater Archaeologist) จากทั่วโลก และนับว่าพื้นที่นี้มีศักยภาพสูงสำหรับการวิจัยในระดับนานาชาติของนักโบราณคดีใต้น้ำในอนาคต
ตงชา แนวปะการังรูปวงแหวนกลางทะเลสีน้ำเงินเข้มแห่งนี้ เปรียบดั่งแหวนเพชรเม็ดงามที่จมอยู่ใต้ท้องทะเลสีคราม เป็นขุมทรัพย์ล้ำค่าที่ชาวประมงถวิลหามานานนับพันปี เกาะตงซานับเป็นหนึ่งในหมู่เกาะทะเลจีนใต้ที่มีการสำรวจและได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วที่สุด การทำประมงในน่านน้ำรอบเกาะแห่งนี้มีมานานกว่า 1,000 ปี โดยปรากฏหลักฐานในบันทึกโบราณยุคราชวงศ์จิ้น (Jin dynasty ) เรื่อง《广州记》หรือ “กว่างโจวจี้” ซึ่งได้กล่าวถึงการเดินเรือประมงมายังเกาะและแนวปะการังตงซาแห่งนี้ ถึงแม้จะมีชาวประมงแวะเวียนมาตลอดหลายศตวรรษ แต่เนื่องจากเกาะมีขนาดเล็กและตั้งอยู่ห่างไกล จึงไม่เคยมีผู้ตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยถาวร
ท้องทะเลได้ใช้เวลานับล้านปีในการสรรค์สร้างแนวปะการังที่ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกแห่งนี้ขึ้นมา ถึงแม้ในช่วงเวลาหนึ่งระบบนิเวศทางธรรมชาติจะถูกรุกรานผ่านการล่าและการทำประมงที่ไม่เหมาะสม จนเกิดเป็นโศกนาฏกรรมทางธรรมชาติอันน่าเศร้า แต่เมื่อรัฐบาลไต้หวันประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาติแนวปะการังตงซาขึ้นในปี ค.ศ. 2007 และเดินหน้าฟื้นฟูระบบนิเวศอย่างจริงจัง โดยเชื่อมั่นว่าโลกใต้ท้องทะเลที่เคยมีชีวิตชีวาจะหวนคืนกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ทำให้ปัจจุบันแหวนเพชรกลางทะเลวงนี้ได้หวนคืนกลับมาเปล่งประกายสู่สายตานักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มาเยี่ยมชม “อุทยานแห่งชาติแนวปะการังตงซา” อีกครั้งหนึ่ง
+886-49-2773121
เนื่องจากเกาะตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์ทางทะเลและยังอยู่ระหว่างการฟื้นฟูระบบนิเวศ รวมถึงเพื่อความปลอดภัยและการเก็บข้อมูลทางวิชาการ การเข้าชมพื้นจึงต้องดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้
- ติดต่อสำนักงานใหญ่อุทยานแห่งชาติทางทะเล (Marine National Park Headquarters) เพื่อขออนุญาตเข้าพื้นที่
- ประสานขอใช้ที่นั่งบนเที่ยวบินแบบเช่าสัญญาของรัฐบาล (government-contracted flights) ขึ้นจากสนามบินเสียวกั่ง, เมืองเกาสง (Kaohsiung International Airport – KHH)
- เดินทางไปยัง สนามบินตงซา (DSX)
- จากนั้นภายในเกาะสามารถเดินทางด้วยจักรยานหรือรถบัสของราชการ เพื่อเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ