ข้อมูลหนังสือเดินทางและวีซ่าเข้าไต้หวัน

ดูเพิ่มเติม

“20 พิกัดลับ” บนเกาะเสี่ยวหลิวฉิว เกาะปะการังที่คุณต้องตกหลุมรัก!

“เกาะเสี่ยวหลิวฉิว” (Xiaoliuqiu Island) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองผิงตง (Pingtung) ห่างจากท่าเรือตงกั่ง (Donggang Port) ประมาณ 15 กิโลเมตร มีพื้นที่เพียง 6.8 ตารางกิโลเมตร ลักษณะเกาะคล้ายรองเท้าบูท และเป็นเกาะปะการังเพียงแห่งเดียวในบรรดาเกาะเล็กเกาะน้อยของไต้หวัน แต่แม้ว่าจะเป็นเกาะขนาดเล็ก แต่เสี่ยวหลิวฉิวก็เต็มไปด้วยถ้ำหินปูนและแนวปะการังรูปร่างแปลกตาที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับการสำรวจธรรมชาติ

Xiaoliuqiu Island

ในอดีต ชาวเกาะยังชีพด้วยการประมงแบบดั้งเดิม ก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยอากาศที่เหมาะกับการท่องเที่ยวตลอดทั้งปีและเสน่ห์เฉพาะตัว เสี่ยวหลิวฉิวจึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนหลายหมื่นคนต่อปี และกลายเป็นหนึ่งในเกาะท่องเที่ยวยอดนิยมของไต้หวัน

1. ท่าเรือท่องเที่ยวไป๋ซา (Baisha Tourist Harbor)

ท่าเรือหลักของเกาะเสี่ยวหลิวฉิว ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางการเดินทางเข้าสู่เกาะ ภายในมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรือข้ามฝั่งและบริการเช่ายานพาหนะสำหรับการทำกิจกรรมต่าง ๆ รอบ ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย อีกหนึ่งจุดเด่นคืออาคารสีสันสดใสที่พบเห็นบริเวณท่าเรือนั้น เป็นแหล่งของร้านค้าปลอดภาษีที่มีให้เลือกชอปปิงระหว่างรอเรือเทียบท่า ส่วนกิจกรรมแนะนำที่ไม่ควรพลาดคือ การล่องเรือท้องกระจก เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่กล้าดำน้ำ แต่ก็ยังสามารถนั่งชมโลกใต้ทะเลของเสี่ยวหลิวฉิวได้อย่างสบายและเพลิดเพลิน

Baisha Tourist Harbor

2. หาดจงอ้าว (Zhongao Beach)

หาดทรายสีขาวกว้างใหญ่แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ตัวเมือง เหมาะกับการพักผ่อนช่วงหน้าร้อนไม่ว่าจะเล่นน้ำ พายเรือ ดำน้ำตื้น และกิจกรรมชายหาดอื่น ๆ ไฮไลต์ของที่นี่คือ พื้นทรายปะการัง ที่มีลักษณะคล้ายหาดในโอกินาวา เต็มไปด้วยเปลือกหอยและชิ้นปะการัง ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับชายหาดแห่งนี้อย่างเป็นธรรมชาติ หากไปถูกจังหวะ ยังมีโอกาสชมพิธี“เผาเรือราชา”ที่จัดขึ้นทุก 3 ปีถือเป็นประเพณีท้องถิ่นที่หาชมได้ยากอีกด้วย

Zhongao Beach

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.dbnsa.gov.tw 

3. ถ้ำกุ้งมังกร (Lobster Cave)

ถ้ำธรรมชาติแห่งนี้ตั้งอยู่บนแนวปะการังฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะ เป็นแนวปะการังที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลมาเป็นระยะเวลานาน จนกลายเป็นบริเวณที่มีแอ่งน้ำขนาดเล็กและร่องหินมากมายตามแนวชายฝั่ง ที่มาของชื่อถ้ำมาจากที่ในอดีตบริเวณนี้เคยเป็นแหล่งจับกุ้งมังกรของชาวบ้าน จึงกลายเป็นชื่อที่สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน

4. ศาลาชมพระอาทิตย์ขึ้น (Sunrise Pavilion)

ในอดีตพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ฝังกลบขยะ ปัจจุบันได้รับการปรับปรุงพื้นที่อย่างจริงจังให้กลายเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่มีบรรยากาศเงียบสงบและโรแมนติก มีศาลาให้นั่งพักชมวิวทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตา เหมาะเป็นจุดแวะพักระหว่างขับรถรอบเกาะ นั่งรับลม สูดอากาศบริสุทธิ์และชมท้องฟ้าเปลี่ยนสียามพระอาทิตย์ขึ้นและลับขอบฟ้า

5. มุมลับไม้ลอยริมทะเล (Secret Driftwood Spot)

ระหว่างทางจากศาลาชมพระอาทิตย์ไปยังท่าเรือต้าฝู (Dafu Port) เดินเท้าไปเพียง 5-10 นาที ก็จะพบกับจุดลับที่สายถ่ายรูปไม่ควรพลาด เป็นไม้ลอยจากทะเลที่ถูกซัดขึ้นมาติดบนโขดหินโดยธรรมชาติ กลายเป็นมุมถ่ายภาพแบบอาร์ตที่ดูเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์เฉพาะตัว

6. ท่าเรือประมงต้าฝู (Dafu Fishing Port)

ท่าเรือประมงต้าฝู (Dafu Fishing Port) หรือที่รู้จักอีกชื่อว่า ท่าเรือประมงต้าเหลียว (Daliao) เป็นท่าเรือหลักที่ใช้ขนส่งสินค้าและให้บริการเรือข้ามฟากของรัฐระหว่างฝั่งไต้หวันแผ่นดินใหญ่กับเกาะเสี่ยวหลิวฉิว ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือตงกั่งประมาณ 40 นาที เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญสำหรับการเดินทางเข้าออกเกาะ 

Dafu Fishing Port

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.dbnsa.gov.tw 

7. จักรยานน้ำเสี่ยวหลิวฉิว (Xiaoliuqiu Water Bike)

ใครกำลังมองหาความสนุกใกล้ทะเลแต่ไม่อยากตัวเปียกขอแนะนำกิจกรรมปั่นจักรยานน้ำ! ใช้งานง่าย ไม่ต้องออกแรงเยอะ และปลอดภัยทำให้คุณปั่นได้สบายๆเพลินเพลิดกับวิวรอบตัวพร้อมสูดบรรยากาศลมทะเลได้อย่างเต็มปอดเหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่อยากสนุกกับการเล่นน้ำในอีกรูปแบบหนึ่ง

8. สระว่ายน้ำธรรมชาติริมทะเล (Hidden Seaside Pool)

อ่าวเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ข้าง ๆ ศาลาต้าฝูแห่งนี้ เป็นเหมือนสระว่ายน้ำส่วนตัวกลางทะเล ที่ปราศจากคลื่นรบกวน ด้วยผืนน้ำที่ใสและนิ่งสงบ รอบข้างโอบล้อมไปด้วยแนวปะการังธรรมชาติที่งดงาม เหมาะสำหรับการเล่นน้ำพร้อมดื่มด่ำกับทิวทัศน์ดุจภาพวาด ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง

9. ประภาคารขาวแห่งเสี่ยวหลิวฉิว (White Lighthouse)

ประภาคารทรงกลมสีขาวตั้งอยู่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะ ถือเป็นหนึ่งอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นในสมัยที่ไต้หวันถูกปกครองโดยญี่ปุ่น มีความสูงประมาณ 10 เมตร สามารถสาดแสงไฟจากตัวประภาคารได้ในรัศมีไกลถึง 20 ไมล์ทะเล ตอนกลางคืนแสงจากประภาคารจะส่องขึ้นฟ้าท่ามกลางความเงียบงัน เพื่อคอยนำทางให้กับเรือที่แล่นผ่านบริเวณช่องแคบไต้หวันและช่องแคบบาชิ เป็นดั่งสัญลักษณ์แห่งความปลอดภัยให้กับทั้งคนเดินเรือและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะแห่งนี้ได้อุ่นใจ

White Lighthouse

10. หาดลับโห้วสือ (Houshi Secret Beach)

อ่าวแห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือ ช่องหินธรรมชาติ ที่ในอดีตเคยถูกเจาะเปิดทางเพื่อให้ชาวประมงลำเลียงสินค้าทางทะเลที่จับมาได้ขึ้นฝั่งอย่างสะดวก จากกาลเวลาที่ล่วงเลยมาหลายปี ประกอบกับปรากฏการณ์ธรรมชาติทางทะเลต่าง ๆ ทำให้ปัจจุบันได้กลายมาเป็นอ่าวขนาดเล็ก ประดับด้วยน้ำสีใส เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดำน้ำตื้น ท่ามกลางทิวทัศน์ที่สวยงามราวกับสระว่ายน้ำธรรมชาติส่วนตัว

11. แนวปะการังโห้วสือ (Houshi Fringing Reef)

แนวปะการังขนาดใหญ่กระจายตัวอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะ เนื่องจากแนวหินปะการังถูกกัดเซาะโดยน้ำทะเลมาเป็นเวลานาน จึงเกิดร่องลึกเหมือนจีบกระโปรง หากมองจากมุมสูงจะดูราวกับว่าเกาะเสี่ยวหลิวฉิวสวมกระโปรงที่มีจีบซ้อนเป็นชั้น ๆ จุดเด่นของที่นี่คือหินปะการังรูปร่างแปลกตาหลากหลาย ทั้งหินหัวหน้าเผ่า, หินเจ้าแม่กวนอิมรวมถึง หินเถาวัลย์, หมีขาว, จะงอยปากนกอินทรีย์และหินหนู ซึ่งต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นจุดที่เหมาะกับการใช้จินตนาการ พร้อมถ่ายรูปสนุก ๆ ไปกับธรรมชาติ

Houshi Fringing Reef

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.dbnsa.gov.tw 

12. ศาลาชมพระอาทิตย์ตก (Sunset Pavilion)

ฝั่งตะวันตกของเกาะเสี่ยวหลิวฉิวเป็นที่ตั้งของจุดชมพระอาทิตย์ตกอันงดงาม ที่หันหน้าออกสู่ช่องแคบไต้หวันอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ท่ามกลางทิวทัศน์ของทะเลจีนใต้ที่ทอดยาวตัดกับท้องฟ้าสีส้มแดงยามพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ส่องแสงสะท้อนกับผืนน้ำทะเลจนเกิดเป็นทัศนียภาพอันสวยงามที่น่าจดจำ นอกจากความงดงามของวิวพระอาทิตย์ตกแล้ว บริเวณชายฝั่งใกล้ ๆ ศาลาแห่งนี้ยังมีแนวหินปะการังเรียบชายฝั่ง ที่โผล่พ้นผิวน้ำมาอวดโฉมบรรดานักท่องเที่ยวให้ได้เดินสำรวจและเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติอันรื่นรมย์อีกด้วย

13. ถ้ำปีศาจดำ (Black Devil Cave Scenic Area)

หนึ่งในสถานที่ยอดนิยมที่สุดบนเกาะ จุดเด่นอยู่ที่แนวปะการังริมชายฝั่งที่มีรูปร่างซับซ้อน คล้ายเขาวงกต เมื่อเดินเข้าไปจะทำให้รู้สึกเหมือนกำลังผจญภัยในแดนลึกลับ ทางเข้าถ้ำมีต้นไทรอายุกว่าร้อยปีที่แผ่รากพันเกี่ยวหินแน่นหนา เงาไม้ร่มรื่นตลอดทั้งปี เกิดเป็นภาพธรรมชาติที่สวยงามและน่าทึ่งสุดๆชื่อถ้ำปีศาจดำมีที่มาจากตำนานท้องถิ่นที่ชาวดัตช์เคยทิ้งทาสผิวดำไว้ที่นี่หลังพ่ายแพ้ให้กับเจิ้งเฉิงกง ทาสเหล่านี้หลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำแห่งนี้ กลายเป็นเรื่องราวที่บอกต่อกันมาถึงปัจจุบัน ปัจจุบันถ้ำปีศาจดำได้รับการพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เดินเที่ยวได้อย่างสนุกและปลอดภัย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย

Black Devil Cave Scenic Area

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.i-pingtung.com 

14. หาดเวนิส (Geban Bay / Venice Beach)

หาดทรายสีขาวทอดยาวกว่า 100 เมตรที่ปกคลุมด้วยทรายเปลือกหอย เป็นชายหาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเกาะ เหมาะสำหรับการเดินเล่นเปลือยเท้า ฟังเสียงคลื่น และชมพระอาทิตย์ตก ที่นี่ยังถูกจัดตั้งให้เป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำเต่าทะเลและทรัพยากรประมง โดยมีกฎห้ามบุคคลทั่วไปเข้าออกพื้นที่บริเวณชายหาดและเขตน้ำตื้นในช่วงกลางคืนเพื่อปกป้องสัตว์ทะเล

Venice Beach

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://gototravel.tw/ 

15. หุบเขาหมูป่า (Mountain Pig Ditch)

เส้นทางธรรมชาติบนแนวเขาที่อนุรักษ์พืชพันธุ์ดั้งเดิมไว้ครบถ้วน มีป้ายให้ความรู้ตลอดทาง นอกจากนี้ยังสามารถพบปะการังฟอสซิลกับพืชเขตร้อนมากมายในพื้นที่ ให้บรรยกาศคล้ายป่าฝนขนาดย่อม ส่วนที่มาของชื่อหุบเขามาจากตำนานพื้นบ้านที่เล่าขานกันว่าที่นี่เคยเป็นถิ่นของหมูป่าที่บำเพ็ญเพียรนานนับร้อยปี จนสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์เพื่อหลอกลวงนางฟ้าให้ปลงใจกับตน  แต่เมื่อนางฟ้าตนนั้นหนีไป หมูป่าก็เศร้าโศกเสียใจจนตรอมใจตายอย่างน่าเวทนา จึงเป็นที่มาให้ผู้คนเรียกหุบเขาแห่งนี้ว่า “หุบเขาหมูป่า”

Mountain Pig Ditch

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.i-pingtung.com 

16. ท่าเรือประมงซานฝู (Shanfu Fishing Harbor)

ท่าเรือเงียบสงบที่เต็มไปด้วยภูมิทัศน์ธรรมชาติอันน่าทึ่ง เช่น เสาหินทะเล หน้าผาเว้า และแอ่งหินปะการังที่เกิดจากการกัดเซาะของทะเลตามธรรมชาติ ที่นี่จึงเป็นทั้งจุดเล่นน้ำยอดนิยมและมุมถ่ายรูปสุดเก๋ที่ดึงดูดทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวให้มาพักผ่อนและทำกิจกรรมริมหาด โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนมักจะเห็นภาพผู้คนวิ่นเล่นตามสันเขื่อนกันน้ำและชายหาด เป็นภาพความสุขแสนเรียบง่ายที่รังสรรค์ขึ้นโดยธรรมชาติ

จุดสังเกตทางเข้าอยู่ที่วัดฝูอัน (Fu’an Temple) ซึ่งเป็นจุดรวมตัวของนักท่องเที่ยวที่กำลังจะเดินเข้าไปชมแนวปะการังธรรมชาติ ใกล้ ๆ ยังมีเส้นทางธรรมชาติซานฝู (Shanfu Eco Trail) ที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างงดงาม บรรยากาศโดยรวมของพื้นที่นี้เต็มไปด้วยความหลากหลายของธรรมชาติ จนเปรียบได้ว่าเป็นขุมทรัพย์ลับของเสี่ยวหลิวฉิวที่ซ่อนอยู่

17. แอ่งน้ำตื้นตู้จื่อผิง (Duziping Intertidal Zone)

แนวชายฝั่งปะการังที่กว้างถึง 1,600 เมตร พื้นที่แห่งนี้มีลักษณะค่อนข้างเรียบ มีแอ่งน้ำขนาดเล็กใหญ่กระจายอยู่ทั่ว เมื่อถึงเวลาน้ำลด แอ่งน้ำเหล่านี้ก็จะกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติชั้นเยี่ยม เพราะเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิดที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน จึงทำให้กิจกรรมเดินสำรวจ“เขตน้ำขึ้นน้ำลง” เป็นหนึ่งในกิจกรรมเชิงอนุรักษ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะเสี่ยวหลิวฉิว

Duziping Intertidal Zone

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.dbnsa.gov.tw 

หมายเหตุ: เปิดให้เข้าชมเฉพาะระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน และต้องมีไกด์ท้องถิ่นที่ได้รับอนุญาตพาเข้าชม

18. ถ้ำสาวงาม (Beauty Cave Scenic Area)

จุดชมวิวธรรมชาติ ตั้งอยู่ในทำเลที่ด้านหลังติดเขา ด้านหน้ามองเห็นทะเล เต็มไปด้วยหินรูปร่างแปลกตาและถ้ำธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของทะเลและการยกตัวของแนวปะการัง

Beauty Cave Scenic Area

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.dbnsa.gov.tw 

พื้นที่ถ้ำแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ด้านขวาเป็นแนวบันไดหินทอดลงไปสู่โซนแนวปะการังริมทะเล ส่วนด้านซ้ายจะเป็นทางขึ้นไปยังเนินเขาหินปะการัง ระหว่างทางมีถ้ำหินปะการังที่เป็นถ้ำเล็กถ้ำน้อยเรียงรายอยู่ ในอดีตมีเรื่องเล่าว่าถ้ำนี้เคยเป็นจุดซักผ้าของผู้หญิงในหมู่บ้าน เมื่อมองจากระยะไกลจะเห็นผู้หญิงจำนวนมากเดินเข้าออกไปมาจากบริเวณนี้เสมอ จึงถูกเรียกกันมาอย่างติดปากด้วยความขบขันโดยคนในหมู่บ้านว่า “ถ้ำสาวงาม”

19. โขดหินแจกัน (Vase Rock)

แลนด์มาร์กที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของเกาะเสี่ยวหลิวฉิว เป็นหินปะการังรูปทรงแจกันที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมฝั่งใกล้ท่าเรือไป่ซา ระยะทางเพียง 300 เมตร จึงสามารถเดินถึงได้ง่าย เหมาะกับการถ่ายภาพ โดยเฉพาะช่วงแสงเช้าและเย็น มีความพิเศษตรงที่ในแต่ละช่วงเวลาของวันรูปลักษณ์ของหินที่ปรากฏให้เห็นจะแตกต่างกันออกไปตามทิศทางการหักเหของแสงแดดนอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นจุดดำน้ำตื้นระดับเบื้องต้นสำหรับมือใหม่ และผู้ที่ต้องการสัมผัสโลกใต้ทะเลและเห็นเต่าทะเลตัวเป็น ๆ ในระยะประชิด

Vase Rock

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.i-pingtung.com 

20. วัดปี้หยุน (Biyun Temple)

วันเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาต้าหลิวจวง ใจกลางเกาะเสี่ยวหลิวฉิว สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1736 มีประวัติยาวนานกว่า 200 ปี เป็นศูนย์กลางความศรัทธาของชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแต่งงาน ดูฤกษ์ ทำนายโชคชะตา ก็จะพากันมาขอพรจากพระโพธิสัตว์กวนอิมที่วัดแห่งนี้ และว่ากันว่าคำทำนายที่นี่แม่นมากจนเป็นที่เลื่องลือในท้องถิ่น บริเวณรอบวัดมีทางเดินไม้ผ่านป่าไผ่ที่ร่มรื่น พร้อมเสียงน้ำไหลและแสงไฟในยามค่ำคืน เสริมให้บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การทำสมาธิเป็นอย่างยิ่ง

Biyun Temple

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.siraya-nsa.gov.tw 

นอกจาก 20 สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปเช็กอินแล้ว กิจกรรม ดำน้ำชมเต่าทะเล ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของเสี่ยวหลิวฉิวที่ไม่ควรพลาด ดำลงสู่โลกใต้น้ำแบบใกล้ชิดกับเต่าทะเล สัมผัสประสบการณ์การลอยตัวท่ามกลางผิวน้ำทะเลสีคราม พร้อมครูสอนดำน้ำมืออาชีพที่พร้อมดูแลอย่างใกล้ชิด เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และคนที่อยากลองเปิดประสบการณ์การสำรวจโลกใต้น้ำ

Xiaoliuqiu Island

นอกจากนี้ ยังสามารถเลือก พายเรือคายัคทะเล (Sea Kayak) รอบเกาะ เพื่อชมแนวชายฝั่งแบบ 360 องศา พร้อมชมฝูงปลาและเต่าทะเลในธรรมชาติอย่างใกล้ชิดอีกด้วย ใครที่ชอบกิจกรรมทางน้ำและธรรมชาติ เสี่ยวหลิวฉิวคือหนึ่งในจุดหมายที่ไม่ควรพลาด!

ขอขอบคุณข้อมูลจาก:

https://hny.link/Y9HStW4

Share Now!

เทศกาลแนะนำ