หากทวีปอเมริกามี “หุบเขาผีเสื้อจักรพรรดิ” ไต้หวันก็มี “หุบเขาผีเสื้อสีม่วง (Purple Butterfly Valley)” ที่มีชื่อเสียงและโด่งดังไม่แพ้กัน หุบเขาผีเสื้อสีม่วงที่ “อุทยานแห่งชาติเม่าหลิน” ถือเป็นทรัพยากรทางธรรมชาติระดับโลก และเป็น 1 ใน 2 หุบเขาผีเสื้อของโลกที่ในช่วงเดือนตุลาคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุก ๆ ปี จะมีผีเสื้ออพยพมารวมตัวกันเพื่อหลบภัยหนาว ในช่วงฤดูหนาวกองทัพผีเสื้อเหล่านี้จะบินมารวมตัวกันบริเวณ “เชิงเขาต้าอู่” และอพยพกลับไปเมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.maolin-nsa.gov.tw 

ทำความรู้จักกับ “หุบเขาผีเสื้อสีม่วง” ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติระดับโลก

เมื่อฤดูหนาวมาเยือนที่ไต้หวัน เหล่าผีเสื้อก็จะสยายปีกสีม่วงมุ่งหน้าสู่หุบเขาอันอบอุ่น เหมาะกับการเป็นสถานที่หลบภัยหนาว อย่างบริเวณเชิงเขาต้าอู่ ซึ่งเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่าหลูข่ายและชนเผ่าผายวานที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของไต้หวัน จนเกิดเป็น “หุบเขาผีเสื้อสีม่วง” ที่มีกองทัพผีเสื้อสีม่วงกว่าแสนตัวมารวมตัวกัน

ที่เชิงเขาต้าอู่นี้มีผีเสื้อสีม่วงหลากหลายสายพันธุ์อพยพมารวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็น ผีเสื้อจรกาแคระ (Euploea Tulliolus Koxinga) ผีเสื้อจรกาเมียลาย (Euploea Mulciber Barsine) ผีเสื้อจรกาขีดฟ้า (Euploea Eunice Hobsoni) และผีเสื้อจรกาสองขีด (Euploea Sylvester Swinhoei) และเมื่อกลุ่มผีเสื้อเหล่านี้มารวมตัวกัน ก็เกิดเป็นปรากฏการณ์หุบเขาผีเสื้อสีม่วงซึ่งเป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่ชื่นชอบเรื่องระบบนิเวศไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://khh.travel/en 

โดยทั้ง “หุบเขาผีเสื้อสีม่วง” ในไต้หวัน และ “หุบเขาผีเสื้อจักรพรรดิ” ในประเทศเม็กซิโกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของมหาสมุทรแปซิฟิก ถือเป็นที่จำศีลของผีเสื้อขนาดใหญ่เพียง 2 แห่งของโลกในปัจจุบัน

หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่า จริง ๆ แล้ว “หุบเขาผีเสื้อสีม่วง” ไม่ใช่ชื่อสถานที่ หากแต่เป็นคำที่ผู้เชี่ยวชาญใช้เพื่ออ้างถึงปรากฏการณ์ทางนิเวศวิทยาของผีเสื้อสีม่วงที่อพยพมารวมตัวกันในช่วงฤดูหนาว ซึ่งภูมิทัศน์เชิงนิเวศระดับโลกแห่งนี้ ถือเป็น 1 ในปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่งดงามที่สุดของไต้หวัน และยังได้รับการแนะนำโดยคู่มือการท่องเที่ยวและอาหารระดับโลกอย่าง “Michelin Green Guide Taiwan” ให้ที่นี่เป็นจุดหมายที่ต้องไปเยือนระดับ 3 ดาว (ระดับสูงสุด) เลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพียงแห่งเดียวในไต้หวันที่ได้รับการคัดเลือกอีกด้วย

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://khh.travel/en

ออกสำรวจ “เส้นทางอพยพของผีเสื้อสีม่วง”

หลังจากติดตามและสังเกตการณ์มานานหลายปี ผู้เชี่ยวชาญก็พบว่า เส้นทางการบินของเหล่าผีเสื้อสีม่วงที่อพยพกลับทางเหนือจะเริ่มจากอุทยานแห่งชาติเม่าหลิน ผ่านอุทยานโลกพระจันทร์เถียนเหลียว (Tainliao Moon World) หุบเขาต๋าน่าอีกู่ (Tanaiku) เมืองเจียอี้ หมู่บ้านหูเปิ่น (Hupen) เมืองหยุนหลิน เนินเขาปากว้าซาน (Baguashan) เมืองจางฮว่า เขาต้าตู้ (Dadu) เมืองไถตง เขาหั่วเหยียนซาน (Huoyan) เมืองเหมียวลี่ และสุดท้ายผีเสื้อสีม่วงจะเดินทางไปยังเขตจู๋หนาน เมืองซินจู๋ (Hsinchu) เส้นทางเหล่านี้เชื่อมต่อกันจนได้ชื่อว่าเป็น “ถนนของผีเสื้อ”

ชมผีเสื้อสีม่วง พร้อมสัมผัสวัฒนธรรม เทศกาล และกิจกรรมพิเศษที่ไม่ควรพลาด

เพื่อตอบรับความต้องการของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาชมผีเสื้อสีม่วง นับตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา สำนักงานบริหารพื้นที่ทัศนียภาพแห่งชาติเม่าหลินก็ได้จัด “กิจกรรมชมผีเสื้อ” ขึ้นทุก ๆ 2 ปี ในช่วงเดือนตุลาคมจนถึงเดือนมีนาคมของปีถัดไป โดยมีบริการให้คำอธิบายที่ทางเข้าของอุทยานแห่งชาติเม่าหลิน เพื่อช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าใจเกี่ยวกับวงจรการอพยพและการจำศีลของผีเสื้อสีม่วงได้อย่างถ่องแท้

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://admin.taiwan.net.tw 

นอกจากนี้ บนเว็บไซต์ทางการของสำนักงานบริหารพื้นที่ทัศนียภาพแห่งชาติเม่าหลินก็ยังมีการถ่ายทอดสดภาพผีเสื้อสีม่วงผ่านทางออนไลน์ เพื่อให้ผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาชมความงามของผีเสื้อสีม่วงได้ด้วยตัวเองสามารถรับชมปรากฏการณ์ทางนิเวศระดับโลกนี้ได้จากระยะไกล และเนื่องจากเม่าหลินเป็นพื้นที่ของชนเผ่าหลูข่าย กิจกรรมที่จัดขึ้นจึงมีการผสมผสานเอกลักษณ์ท้องถิ่น เช่น ตลาดนัดเพื่ออนุรักษ์ผีเสื้อ และการแสดงศิลปวัฒนธรรม ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเม่าหลิน นอกจากจะได้สำรวจเส้นทางของฝูงผีเสื้อสีม่วงแล้ว ก็ยังสามารถเดินชมตลาด และเพลิดเพลินไปกับการแสดง พร้อมทั้งดื่มด่ำไปกับบรรยากาศวัฒนธรรมของชนเผ่าหลูข่ายได้อีกด้วย

การได้สัมผัสปรากฏการณ์นี้ จึงไม่เพียงแต่เป็นการชมความงามของธรรมชาติไต้หวันเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นการเรียนรู้และตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในทุก ๆ ที่ที่ไปอีกด้วย หากใครมีโอกาส ก็ควรจะไปเยือนหุบเขาผีเสื้อสีม่วงให้ได้สักครั้ง และชมความมหัศจรรย์นี้ด้วยตาตนเอง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก:https://hny.link/nKL8DoBs