ณ ใจกลางเมืองซินจู๋ ไต้หวัน มีสถานที่ที่โดดเด่นเรื่องการผสมผสานความศรัทธาและสถาปัตยกรรมเข้าด้วยกัน นั่นคือ “Nature Loving Wonderland, Maitreya Great Tao” ที่เมื่อก้าวเข้าสู่พื้นที่แห่งนี้ ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบและงดงาม พร้อมทั้งภาพที่สะท้อนเรื่องราวของศาสนาและความเชื่อของคนไต้หวันอย่างแท้จริง

“Maitreya Great Tao” เป็น 1 ในความเชื่อทางศาสนาที่หายากในสังคมจีนที่เผยแผ่ไปยังต่างประเทศ โดยมี “Nature Loving Wonderland” (大自然文化世界) เป็นทั้งศูนย์รวมความเชื่อทางศาสนา และเป็นศูนย์ส่งเสริมแนวคิดวัฒนธรรมธรรมชาติที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาและแนวทางใหม่ที่หลากหลายของนิกายพื้นเมืองดั้งเดิมในไต้หวันปัจจุบัน 

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://taiwangods.moi.gov.tw 

สถาปัตยกรรมของสถานธรรมแห่งนี้ผสมผสานระหว่างความงดงามทางวัฒนธรรมและศิลปะ โดยนำเอาเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมทั้งในและต่างประเทศจากอดีตและปัจจุบันมาผสมผสานเข้ากับการออกแบบแบบดั้งเดิม สมัยใหม่ ธรรมชาติ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มีจุดเด่นสำคัญคือ “พระศรีอริยเมตไตรยทองสัมฤทธิ์” ที่มีความสูงถึง 72 เมตร ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้ที่นี่กลายเป็นแลนด์มาร์กทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองซินจู๋ (Hsinchu) 

รู้จัก “Maitreya Great Tao” – ศาสนา วัฒนธรรม และแนวคิดแห่งการอยู่ร่วมกัน

Maitreya Great Tao มีการบูชา “เทพเจ้าหมิงหมิงซ่างตี้” (明明上帝) และองค์พระศรีอริยเมตไตรยเป็นหลัก ผู้ก่อตั้ง Maitreya Great Tao คือท่านหวังห่าวเต๋อ (王好德前人) และมีผู้สืบทอดรุ่นที่ 2 ได้แก่ ท่านเหยียนเมี่ยวหรู (顏妙如前人) และท่านวังฉือกวง (汪慈光前人)

ต่อมาในปี ค.ศ. 1987 ได้ก่อตั้ง “วัดพุทธเทียนเอินเมตไตรย (財團法人天恩彌勒佛院)” ขึ้น ใกล้กับอุทยานวิทยาศาสตร์ซินจู๋ และเริ่มดำเนินงานเผยแผ่ศาสนาทั้งในและต่างประเทศภายใต้ชื่อ “เซียนเทียนเต้า” (先天大道)

ถัดมาในปี ค.ศ. 2000 Maitreya Great Tao ได้ย้ายที่ตั้งไปยังริมทะเลสาบเอ๋อเหมย เขตเอ๋อเหมย เมืองซินจู๋ และเริ่มก่อสร้าง “Nature Loving Wonderland, Maitreya Great Tao” (彌勒大道大自然文化世界) ซึ่งใช้ระยะเวลาการก่อสร้างนานถึง 11 ปี ก่อนจะแล้วเสร็จในปีค.ศ. 2011 และในปีเดียวกันนี้งได้มีการจัดพิธีเปิด “ซุ้มประตู” ทำให้ที่นี่กลายเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญในพื้นที่ รวมถึงเป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของผู้ศรัทธา

นอกจากการเผยแผ่แนวคิด “ใต้แหล่งหล้าฟ้าเดียวกันล้วนเป็นครอบครัว” (天下一家) แล้ว ปัจจุบันที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของหน่วยงานบริหารต่าง ๆ เช่น มูลนิธิ Maitreya Great Tao, สถาบันพระศรีอริยเมตไตรย, สหพันธ์นานาชาติ Nature Loving และอื่น ๆ

จุดเด่นของสถานที่ – ความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมและความหมายทางศาสนา

1. ซุ้มประตูทางเข้า

 ซุ้มประตูทางเข้าตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของ “จัตุรัสแห่งความสุข” (幸福广场) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ “ประตูแห่งโลก” (世界一家門) ประกอบไปด้วยประตูทั้งหมด 3 ประตู ได้แก่ ประตูแห่งความสุข ประตูแห่งความโชคดี และประตูแห่งความปิติยินดี ซุ้มประตูนี้มีความสูง 22 เมตร ด้านบนประดับด้วยสัญลักษณ์มืออุ้มโลกที่หล่อจากทองสัมฤทธิ์ ทำให้มีความสูงรวมถึง 28 เมตร และมีความลึก 9.6 เมตร การออกแบบมีความเรียบง่ายและมั่นคง ต่างจากวัดแบบดั้งเดิมที่เน้นศิลปะตกแต่ง เพราะต้องการแสดงถึงจิตวิญญาณความเป็นธรรมชาติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://naturelovingwonderland.org 

นอกจากนี้ ทั้งสองข้างของซุ้มประตูยังมี “นาฬิกาแห่งความสุขของโลก” (世界幸福钟) ที่ใช้คำที่มีพลังบวกมาวางแทนตัวเลขบอกเวลา เช่น ความสุข ความปิติ ความเบิกบาน ความสง่างาม ความสนุก ความสงบ ความหวัง ความสมปรารถนา ความสว่างไสว ความเชื่อมั่น ความสบายใจ และความอิ่มเอม โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ทุกคนมีความสุขในทุก ๆ ช่วงเวลา

2. จัตุรัสแห่งความสุข

เมื่อข้ามผ่าน “ประตูแห่งโลก” แล้วก็จะสามารถเดินไปตาม “ถนนความสุข” ที่มีความยาว 200 เมตร และกว้าง 51 เมตร ตลอดสองข้างทางมีรูปปั้นพระศรีอริยเมตไตรยที่ยิ้มแย้ม  รวมถึงเจ้าแม่กวนอิมและเจ้าแม่หมาจู่ในท่าทางสง่างาม ทั้งหมดทำจากหินบลูสโตนและทองสัมฤทธิ์ กำลังรอต้อนรับผู้มาเยือน จากนั้นถึงจะเข้าสู่ “จัตุรัสแห่งความสุข” ซึ่งสามารถรองรับผู้คนได้ถึง 20,000 คน ล้อมรอบด้วยต้นสนไวท์ไพน์ไต้หวัน (Taiwanese White Pine Trees) หลายร้อยต้น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอายุยืนยาว ความโชคดี และความแข็งแกร่งไม่ยอมแพ้

3. รูปแบบสถาปัตยกรรมหลัก

รูปแบบสถาปัตยกรรมของพระวิหารและหอบรรพบุรุษที่ตั้งอยู่ด้านหลังมีการออกแบบผสมผสานองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมจากทั้งทางตะวันตกและตะวันออก เช่น หลังคาหน้าจั่วแบบจีน และเสาคอรินเทียนแบบกรีก พร้อมทั้งมีการใช้กระเบื้องแก้วและแผ่นทองแดงจำนวนมาก เป็นการผสมผสานความงดงามของศิลปะและวัฒนธรรม เน้นความเรียบง่ายและความเป็นธรรมชาติ แตกต่างจากวัดพุทธและเต๋าดั้งเดิมที่มักจะตกแต่งด้วยลวดลายซับซ้อน

การออกแบบนี้ได้รวบรวมจิตวิญญาณของสถาปัตยกรรมทั้งในและต่างประเทศจากอดีตและปัจจุบัน ผสมผสานเข้ากับการออกแบบแบบดั้งเดิม สมัยใหม่ ธรรมชาติ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมทั้งยังสะท้อนถึงความหมายทางศาสนาและคุณค่าทางวัฒนธรรมของ Maitreya Great Tao

4. พระวิหารองค์พระศรีอริยเมตไตรย

ภายในพระวิหารมีพระพุทธรูปพระศรีอริยเมตไตรยนั่งประดิษฐานอยู่ มีความสูง 15 เมตร โดยรอบองค์พระมีกำแพงหินอียิปต์สีเบจล้อมรอบ เป็นการสื่อถึงแสงแห่งความเมตตาของพระศรีอริยเมตไตรยที่แผ่กระจายไปทั่วจักรวาล พื้นที่ภายในสูงตระหง่านและมีเสาคอรินเทียนที่งดงามทำให้รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ สร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจให้แก่คนที่ได้ชม

ด้านบนพระวิหารเป็นโดมใสที่มีความสูงเกือบ 50 เมตร มีตัวอักษรสำริดคำว่า ยาว 7 เมตรแขวนอยู่ ตัวอักษรนี้เป็นตัวอักษรโบราณจากราชวงศ์ชางของจีน (เมื่อประมาณ 1558-1046 ปีก่อนคริสตกาล) ถือเป็นตัวแทนของเทพเจ้าหมิงหมิงซ่างตี้ ผู้เป็นรากฐานของสรรพสิ่งและมารดาโดยกำเนิดของมนุษย์ทุกคน

5. หอแสดงพระศรีอริยเมตไตรย

ภายในหอแสดงมีการจัดแสดงพระศรีอริยเมตไตรยที่แกะสลักจากไม้หายากกว่า 10 องค์ เช่น ไม้สนยูจีน ไม้สักทอง และไม้การบูร ข้างรูปสลักแต่ละองค์จะมีป้ายคำอวยพรจากพระศรีอริยเมตไตรย ซึ่งทำให้ผู้มาเยือนได้รู้สึกและสัมผัสถึงความปิติสุขที่บังเกิดในใจ

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://taiwangods.moi.gov.tw 

องค์พระศรีอริยเมตไตรยที่สูงที่สุดในโลก – สัญลักษณ์แห่งความเมตตาและความสุข

สิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยเมื่อเอ่ยถึง Nature Loving Wonderland, Maitreya Great Tao ก็คือองค์พระศรีอริยเมตไตรขนาดใหญ่ที่ถือเป็นแลนด์มาร์กของที่นี่ โดยองค์พระจะตั้งอยู่เหนือศูนย์นิทรรศการ The Universal Family Cultural มีความสูง 56.7 เมตร ตัวฐานสูง 15.3 เมตร รวมความสูงทั้งหมด 72 เมตร สร้างขึ้นจากทองสัมฤทธิ์แท้ นับเป็นองค์พระที่สูงที่สุดในไต้หวัน และยังเป็นองค์พระศรีอริยเมตไตรยทองสัมฤทธิ์ที่สูงที่สุดในโลก พระหัตถ์ขวาถือโลก พระหัตถ์ซ้ายถือสร้อยลูกประคำ ที่กลางอกมีป้ายทองคำสลักคำว่า “慈” (ฉือ) ซึ่งหมายถึงความเมตตา เพื่อเตือนใจให้มนุษยชาติรักและหวงแหนโลก เคารพคุณค่าและศักดิ์ศรีของทุกสรรพชีวิต

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://taiwangods.moi.gov.tw

ที่ด้านล่างขององค์พระ คือศูนย์นิทรรศการ The Universal Family Cultural ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์พระศรีอริยเมตไตรยองค์เล็กจำนวน 11 องค์ ทุกองค์หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ กำลังขับขานบทเพลงแห่งความรักต่อธรรมชาติ ตั้งเรียงรายรวมกันเป็นคณะนักร้องประสานเสียงแห่งธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีองค์พระศรีอริยเมตไตรยทรงม้าอันสง่างาม และองค์พระศรีอริยเมตไตรยที่กำลังบรรเลงดนตรี ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก

ข้อควรระวังและแนวทางการเข้าชม – สิ่งที่ควรรู้ก่อนไปเยือน

หากต้องการไปเยี่ยมชม Nature Loving Wonderland, Maitreya Great Tao ผู้เข้าชมจะต้องห้ามสวมใส่

• รองเท้าแตะ 
• รองเท้าส้นสูง 
• กางเกงขาสั้น 
• กระโปรงสั้น 
• เสื้อแขนกุด 
• เสื้อเปิดหลัง 
• เสื้อคอกว้าง
• เสื้อผ้าที่เปิดเผยมากเกินไป

รายละเอียดเพิ่มเติมอื่น ๆ สามารถดูได้จาก “ข้อควรระวังในการเยี่ยมชม” บนเว็บไซต์ทางการ https://naturelovingwonderland.org/visit_en.html

• ที่ตั้ง: No.1, Kualie Rd., Huguang Vill., Emei Township, Hsinchu Country
• ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าเข้าชม
• วันที่เปิดให้บริการ: วันอังคาร-ศุกร์ เปิดให้เข้าชมสำหรับกลุ่มขนาด 15 คนขึ้นไป และต้องทำการจองล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน

วันเสาร์-อาทิตย์ เปิดให้เข้าชมสำหรับประชาชนทั่วไป

ปิดทุกวันจันทร์

• เวลาที่เปิดให้บริการ: 

ซุ้มประตู เปิดให้เข้าวันละ 2 รอบ 

รอบแรก เวลา 9.00-11.30 น. 

รอบที่สอง เวลา 13.30-16.30 น.

พระวิหาร เปิดให้เข้าชมวันละ 2 รอบ 

รอบแรก เวลา 9.00-11.00 น. 

รอบที่สอง เวลา 13.30-16.00 น.

• เบอร์ติดต่อ: (03)621-4569; 0916-549610

การมาที่ Nature Loving Wonderland, Maitreya Great Tao เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้มีโอกาสสัมผัสกับความงดงามและประติมากรรมพระศรีอริยเมตไตรยที่ยิ่งใหญ่ พร้อมทั้งโอกาสในการเรียนรู้วัฒนธรรม ความเชื่อ และแนวคิดที่เน้นความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ สถานที่แห่งนี้จึงเป็นจุดหมายสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสและดื่มด่ำกับความงามของศิลปะและธรรมชาติที่ผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

ขอขอบคุณข้อมูลจาก:https://hny.link/cZ1uHPfD