อุทยานแห่งชาติจินเหมินตั้งอยู่บนเกาะจินเหมิน (Kinmen Islands) ทางฝั่งตะวันตกของไต้หวัน ใกล้ชายฝั่งประเทศจีน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1995 และนับเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งที่ 6 ของไต้หวัน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 22,054.62 ไร่ 

เกาะจินเหมินมีบทบาทสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิงและชิง ซึ่งเป็นยุคที่เกาะนี้มีชื่อเดิมว่า “อู่โจว (浯洲)” เคยเป็นบ้านเกิดของขุนนางชื่อดังมากมาย และยังเป็นที่ตั้งกองทัพของ “เจิ้งเฉิงกง” นักรบผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์หมิงตอนปลาย ในช่วงศตวรรษที่ 16 เกาะนี้ยังถูกรุกรานโดยโจรสลัดญี่ปุ่นอยู่บ่อยครั้ง ทำให้มีการเสริมกำลังป้องกันอย่างเข้มงวด และในยุคหลังกลายเป็นแนวหน้าสำคัญของสมรภูมิในสงครามระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์จีนกับกองทัพก๊กมินตั๋ง ซึ่งรวมถึงยุทธการอันโด่งดัง เช่น สมรภูมิกู่หนิงโถว และสงครามปืนใหญ่ 823 ร่องรอยของสงครามยังคงปรากฏให้เห็นในพื้นที่ต่าง ๆ ของอุทยาน ไม่ว่าจะเป็นกู่หนิงโถว (Guningtou) ไท่อู่ซาน (Taiwushan) กู๋ก่าง (Gugang) หม่าซาน (Mashan) และเลี่ยอวี่ (Lieyu) แต่ในอีกมุมหนึ่ง จินเหมินยังเป็นดินแดนแห่งวัฒนธรรมที่เปี่ยมชีวิตชีวา ซึ่งผสานทั้งประวัติศาสตร์ ศิลปะ สถาปัตยกรรม และความเชื่อพื้นถิ่นไว้ได้อย่างลงตัว

นอกจากเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ จินเหมินยังเปี่ยมไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า แม้จะมีประชากรเพียงราว 50,000 คน แต่เกาะแห่งนี้กลับมีชีวิตชีวาและเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ บ้านเรือนแบบ “ซานเหอย่วน (三合院)” หรือ three-winged Fujian-style ที่พบได้ทั่วไปบนเกาะ เป็นสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นที่สะท้อนความรุ่งเรืองในอดีต ทั้งในด้านศิลปะ วัฒนธรรม และการใช้ชีวิตของผู้คนท้องถิ่น ซึ่งได้รับการดูแลทำนุบำรุงโดยหน่วยงานรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ผู้คนบนเกาะจินเหมินมีวิถีชีวิตเรียบง่าย ผูกพันกับทะเล และยังคงยึดถือความเชื่อทางศาสนาอย่างแน่นแฟ้น ถ่ายทอดให้เห็นผ่านการเคารพบูชาเทพเจ้าในพื้นที่มีทั้งตามความเชื่อพื้นบ้านและในศาสนาพุทธ–เต๋า ไม่ว่าจะเป็น เทพเจ้าเฉิงหวง (เทพเจ้าประจำเมือง) เจ้าแม่หมาจู่ (เทพีแห่งท้องทะเล) และเจ้าแม่กวนอิม (เทพีแห่งความเมตตา) 

และอีกหนึ่งวัฒนธรรมทางความเชื่อที่โดดเด่นของจินเหมินคือ สิงโตลม (Wind Lion God) ซึ่งเป็นเทพเจ้าท้องถิ่นที่ชาวจินเหมินนับถือในฐานะเทพผู้ควบคุมพลังธรรมชาติ โดยเฉพาะลมฟ้าอากาศ ความเชื่อนี้มีต้นกำเนิดตั้งแต่ช่วงปลายราชวงศ์หมิง เมื่อเจิ้งเฉิงกงระดมไม้จำนวนมากเพื่อสร้างเรือรบในการต่อต้านราชวงศ์ชิง ส่งผลให้ผืนป่าในจินเหมินถูกทำลายและเกิดการกัดเซาะอย่างหนัก ชาวบ้านจึงสร้างรูปปั้นสิงโตลมขึ้นทั่วเกาะเพื่อขอพรให้ลมสงบและบ้านเมืองปลอดภัย โดยรูปปั้นเหล่านี้ยังสะท้อนศิลปะพื้นถิ่นที่ผสมผสานความเชื่อแบบวิญญาณนิยม (Animistic) และมานุษยลักษณนิยม (Anthropomorphic) ได้อย่างมีเอกลักษณ์ ดังนั้นจินเหมินจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติไปพร้อม ๆ กันท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ